大理 ต้าหลี่เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรหนานเจา(南诏)ซึ่งเป็นอาณาจักรของชาวไป๋(白族)ในราวศตวรรษที่ 8-9 ต่อมาได้เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรต้าหลี่ในปี พ.ศ. 1480 – 1796 และยังเป็นศูนย์กลางการเคลื่อนไหวของกลุ่มกบฏชาวจีนมุสลิม (จีนฮ่อ)ระหว่างปี พ.ศ. 2399 – 2406 ต้าหลี่ เป็นเมืองเก่าแก่ ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลุ่มระหว่างทะเลสาบเอ๋อไห่ และเทือกเขาชางซาน (苍山) ซึ่งมีภูเขามังกรหยกอยู่ทางด้านตะวันตกของเมือง ต้าลี่ถือเป็นรัฐที่มีเอกราชมานานตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 8 คือ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับราชวงศ์ถังและซ่ง ผู้นำมีฐานะเป็นจักรพรรดิแห่งยูนนาน จนกระทั่งมาแตกพ่ายให้กับชาวมองโกล จากนั้นจึงขึ้นอยู่กับศูนย์กลางอำนาจของจีนเป็นต้นมา ตั้งแต่ราชวงศ์หยวน หมิงและชิง คำว่าหนานเจา : 南诏 หมายถึง ตระกูลทางใต้หรือพวกทางใต้
ใครนึกไม่ออกก็นึกถึงหนังจีนเรื่อง 8เทพอสูรมังกรฟ้า พระเอกของเรื่องต้วนอี้ ล่ะครับ

ในเช้าวันที่ 21 ตุลาคม 2558 เวลา 6.00น.กว่าๆ เราก็มาถึง สถานีรถไฟต้าหลี่(大理火车站)ข้างๆ สถานีรถไฟจะมีจุดขายตั๋วรถโดยสาร มีทั้งไป ที่หมู่บ้านชาวประมงซวงหล่าง(双廊镇)เมืองโบราณต้าหลี่(大理古镇)หมู่บ้านซี่โจว(喜洲镇-เป็นหมู่บ้านที่อยู่รอบๆ ทะเลสาบเอ๋อไห่ ที่ไกลที่สุดจะเงียบสงบและนักท่องเที่ยวน้อยมาก ความงามปานกลางครับ) เป้าหมาย และ ที่พักของเราในวันนี้ก็คือ หมู่บ้านชาวประมงเอ๋อไห่ครับ จึงจัดแจงซื้อตั๋วที่ขายตั๋วข้างๆ โดยซื้อตั๋ว ONE-WAY หมู่บ้านซวงหล่าง และ สามารถไปต่อได้ที่ เมืองโบราณต้าหลี่ แถมตั๋วรถโค้ชชมวิวบริเวณสถานที่ท่องเที่ยวได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ตั๋วมีอายุ 7 วันในราคา 45 หยวน (คุ้มครับไม่งั้นก็เหมารถด้านนอกไปกันได้ครับ 100-300 หยวน ราคาเบาๆ

ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 90 นาที โดยเป็น 90 นาทีที่ทรมานสุดๆ ไม่ใช่เวียนหัวนะครับ ปวดเยี่ยว ปวดคำโตๆ เพราะไม่มีใครนึกถึงว่า สถานีรถไฟมันไม่มีส้วม เพิ่งทุบไปหมาดๆ ก่อนลงจากรถไฟก็ซัดน้ำที่ตุนมากันเต็มที่เลย นั่งตัวเกร็งเลยครับ กว่าจะถึงที่พัก
คำแนะนำด้วยความหวังดี กรุณาอย่ากินน้ำเยอะเวลาไปจีน ตายได้ง่ายๆ
เมื่อมาถึงจุดลงรถ รถประจำทางที่เรามีตั๋วยังไม่ถึงเวลาเดินรอบแรกแต่ด้วยความปวดเยี่ยว ยอมครับจ้างรถแถวนั้นไปส่งหน้าปากซอยที่พัก ที่พักของเราจะอยู่บนแหลม “อวี้จี” (玉几岛)บริเวณแหลมอวี้จี และ บ้านเรือนรอบๆ นั่นละครับคือที่ตั้งของหมู่บ้านซวงหล่าง ถนนในซอยเราเข้าไม่ได้ด้วย เป็นหินขรุขระสวยงาม ไม่ให้รถเข้าเดี๋ยวถนนจะเสีย ก็ได้แต่ลากกระเป๋าเดินเข้าไปกันละครับ

洱海 ทะเลสาบเอ๋อไห่ 耳 แปลว่าหู ฉะนั้นทะเลสาบนี้ท่ามองจากมุมบนหรือดูจากแผนที่จะมีลักษณะเป็นรูปหูคน ตั้งอยู่บนที่ราบสูงในเมืองต้าหลี่ มณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ระดับความสูง 1,972 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีความยาวจากริมฝั่งทิศเหนือจรดทิศใต้ 40 กิโลเมตร และจากทิศตะวันออกจรดทิศตะวันตกประมาณ 7-8 กิโลเมตร มีพื้นที่ 250 ตารางกิโลเมตร จึงเป็นทะเลสาบบนที่ราบสูงที่ใหญ่เป็นอันดับสองในสาธารณรัฐประชาชนจีน รองจากทะเลสาบเตียนฉือ ฝั่งทะเลสาบมีความยาวโดยรอบ 116 กิโลเมตร ความลึกเฉลี่ย 11 เมตร และความจุน้ำ 2.5 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นทะเลสาบที่มีความสวยงามอย่างยิ่ง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญและมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของมณฑลยูนนาน

อั้นเยี่ยวจนพอใจ เราก็มาถึงที่พักที่พักชื่อว่า หลั่นฉง(แมลงขี้เกียจ) 懒虫客栈 เลือกเพราะชื่อเลยครับ ประโยคแรกที่ถามเจ้าของที่พัก “ป้าๆ มีส้วมมั้ย” ห้องยังเช็คอินไม่ได้เช้าเกิน ขอแค่ส้วมก่อนครับ พอเข้าส้วมเสร็จความสุขก็กลับคืนมาสู่เราชาวไทย ที่พักถือว่าโอเคเลยครับ จองผ่านเว็บ qunar.com ราคาตีเป็นเงินไทยประมาน 1200 บาท บริเวณที่พักมีของกินเล่นให้นั่งกินฟรี ที่ชอบมากๆคือน้ำองุ่นครับ กินหมดหม้อเลย ถ้าเป็นที่พักนอกตัวแหลมจะถูกกว่านี้ครับ แต่เราเที่ยวทั้งทีขอเอาสบายใจเหอะ
![]() |
![]() |
ถือว่าคุ้มครับที่พักและอยู่ไม่ไกลจากจุดชมวิว
![]() |
![]() |
อาบน้ำพักผ่อนกันโดยนัดเจอกันตอนประมาณเที่ยงเพื่อไปกินข้าวมื้อเที่ยงกัน และตามสัญญาครับรูปของกินมาและ
เมื่อกินกันอิ่มแล้วก็ ใครจะไปเดินไหนก็ไป สี่โมงเย็นเจอกันครับ บ้างกินต่อ บ้างเดินถ่ายรูป (รถขึ้นฟรีตลอดนะมีบัตร) ส่วนผมนั่งกินน้ำองุ่นจนหมดหม้อ ค่อยเดินไปทางแหลม “อวี้จี” ห่างจากที่พักประมาณ 50 เมตรก็มีจุดเก็บเงินออกบัตรและ10 หยวน ใครไม่อยากอยากเสียเงินตรงนี้ ผมแนะนำก่อน เก้าโมงครับเดินลุยเข้าไปเลยไม่ต้องฟังใครทักไม่ก็ หลังหกโมงเย็น รอป้าๆกลับบ้านก่อน เพราะตอนเช้าผมหาที่พักเดินหลงไปที เขาบอกเป็นคนบ้านเดียวกันมั้งครับฟรี
แหลมนี้จะมีวัดเก่าวัดนึงแต่ไม่ได้เอามาลงนะครับดูแต่เส้นขอบฟ้าไปพลางๆนะ

ถึงเวลาบ่าย สี่โมงเย็นพวกเราก็ขึ้นรถประจำทาง(ฟรี)ไปท่าเรือ จริงๆเดินไปก็ได้ครับแค่อยากใช้ตั๋ว ไปขึ้นเรือมุ่งหน้าไปที่ เกาะหนานเจาเฟิงฉิง(南诏风情岛)เป็นเกาะ 1 ใน 3 เกาะของทะเลสาบเอ๋อไห่ และมีขนาดใหญ่ที่สุด ค่าตั๋ว 50 หยวน บนเกาะมีจุดท่องเที่ยวมากมายไม่จะเป็นรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิม(观音像)หรือกวนอิน และรูปปั้นที่สะท้อนวัฒนธรรมต่างๆ ของชาวไป๋ โดยรูปปั้นหลักหน้าท่าเรือ จะเป็นรูปปั้น ซาอีหมู่(沙壹母)พระแม่ซาอี ตามตำนานเล่าขานว่า พระนางทรงมีบุตรกับเทพมังกร 18 คน แต่ละคนภายหลังเป็นเจ้าครองแคว้นต่างๆ ภายในดินแดนตอนใต้ แคว้นทั้งหมดรวมกันได้รับการขนานนามว่า ยูนนาน
ขอคั่นเวลาด้วยขอกินที่สัญญากันไว้นะครับ

อาหารขึ้นชื่อของเมืองต้าหลี่ ที่มีเฉพาะทะเลสาบเอ๋อไห่ก็จะมี กุ้ง กับ ปลาครับ กุ้งที่นี่ตัวอย่างกะแมงป่อง ส่วนปลานั้นไม่มีกระดูก ตัวเล็กๆ กินแล้วเหมือนกินปูเลย


สถานที่มีชื่อบนเกาะหนานเจาเฟิงฉิง ก็น่าจะมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมกับโรงแรมที่พักบนเกาะ ที่สามารถชมพระอาทิตย์ตกดินได้ ส่วนบริเวณชายหาดจะจัดการแสดงทุกคืนครับ แยกขายบัตรรอบดึกต่างหาก (มีธูปเทียนสำหรับกราบไหว้ขายด้วยนะครับ)

![]() |
![]() |
![]() |
![]() |



พอพระอาทิตย์ตกจากฟากฟ้า เราก็จำเป็นต้องขึ้นเรือเที่ยวสุดท้ายกลับฝั่ง ขากลับมีประมาณสิบกว่าคนรวมพวกเราไปแล้ว

เวลาประมาณ สองทุ่ม กลับถึงบริเวณที่พักแล้ว สิ่งที่พวกเราจะทำกันต่อจากนี้ก็คือ แหลก กันให้ตายไปข้าง

และแล้วค่ำคืนนี้ก็จบลงรอพบตอนต่อไปเมืองโบราณต้าหลี่กับเจดีย์สามองค์นะครับ
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
สถานที่นี้วันนี้ทั้งวันไม่เจอเพื่อนร่วมชาติเลยครับ
- รีวิว :: ทริปยูนนาน(20-26/10/2015) Part1:แรกถึงคุนหมิง
- รีวิว :: ทริปยูนนาน(20-26/10/2015) Part3:เมืองโบราณต้าหลี่(大理古城) – เจดีย์สามองค์แห่งวัดฉงเซิ่ง(崇圣寺三塔)
- รีวิว :: ทริปยูนนาน(20-26/10/2015) Part4:เมืองเก่าที่ถูกลืมซาซี(沙溪古镇)
- รีวิว :: ทริปยูนนาน(20-26/10/2015) Part5:เมืองโบราณลี่เจียง(丽江古城) – สระน้ำมังกรดำ(黑龙潭)
- รีวิว :: ทริปยูนนาน(20-26/10/2015) Part6:ภูเขาหิมะมังกรหยก(玉龙雪山) – กรุงเทพ(曼谷)