ทริปเดินทาง

รีวิว :: ทริปย่าติงครั้งที่2(20-29/10/2017)ตอนที่2:เขตพื้นที่ราบสูงซินตูเฉียว(新都桥)-หลี่ถาง(理塘)-เต้าเฉิง(稻城)

เต้าเฉิงย่าติง, ย่าติง, เต้าเฉิง, มณฑลเสฉวน, ซินตูเฉียว, หลี่ถาง, ไห่จื่อซาน, ท่องเที่ยวจีน, เล่าเรื่องหลังทริป, เล่าเรื่องต่างแดน, ทริปถ่ายภาพ, ทริปเดินทาง

新都桥 ซินตูเฉียว ชื่อนี้หลายๆคนคงคุ้นหู แต่ว่ามันคืออะไรมันมีอะไรดี ทำไมมันดีจัง(ขายน้ำมันเครื่องแป๊ป!) ซินตูเฉียวจริงๆก็คือเมืองทางผ่าน สถานที่หลักๆก็ไม่ค่อยขึ้นชื่อ แต่ว่าบรรยากาศรอบๆ เมืองเล็กๆแห่งนี้นั้นมันสวยฟินเวอร์ จนได้ชื่อว่าสวรรค์ของนักถ่ายรูป ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ตามรายทางก็มีต้นไม้ที่ใบเป็นสีเหลืองๆ เต็มไปหมด ช่วงหน้าหนาวภูเขาต่างๆก็เป็นสีขาว ฤดูใบไม้ผลิดอกไม้ก็ขึ้นเต็มไปหมด แต่ไม่ใช่ว่ามีแต่จุดดีนะครับ บริเวณนี้ระดับน้ำทะเลสูงมว้ากกกก ประมาณ 3600-4300 เมตรเลยทีเดียว อยู่นานๆอาจมีจุกนะครับ


เมื่อออกจากค่ายทิเบตได้ไม่นาน พวกเราได้เจอกับกิจกรรมพื้นบ้านของชาวทิเบต

บริเวณพื้นที่ก่อสร้างใกล้ๆ เมืองตันปา ยามเที่ยงมีกิจกรรมพักผ่อนของคนแถวนี้ ร้องเล่นเต้นรำแต่ไม่มีวัยรุ่น(ไปเรียนกันหมด)

ตามระหว่างทางที่เราจะต้องผ่านเพื่อไปยัง “เมืองซินตูเฉียว” นั้นมีวิวทิวทัศน์ที่ต้องบอกว่าสวยมากๆ อยู่ตลอดทางที่เราจะไปกันเลยทีเดียว อาทิเช่น ธารหินแดง วิวภูเขาก้งกา ภูเขาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในมณฑลเสฉวน ธารหินเพ้นลาย ต่างๆ

บริเวณนี้จะมีหินสีแปลกๆ แต่ออกแดงๆ ซะเป็นส่วนใหญ่กองอยู่มากมาย
พร้อมกับสายน้ำที่ใสมาก

แต่เชื่อแอดมินเหอะ มันหินก่อสร้างที่เหลือไม่รู้เอาไปทิ้งไหนก็เอามากองๆ กัน(เน้นฮาครับ)

เมื่อเราผ่านจุดนี้ไปแล้วเราจะเริ่มไต่ระดับความสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเลยระดับความสูงที่ 3000 เมตรขึ้นไปแล้ว ยังดีที่คนขับรถจะพยายามให้พวกเราได้ลงไปเดินเล่นบ่อยๆ เพื่อปรับสภาพเราไปเรื่อยๆ ครับ

ภูเขาหิมะลูกใหญ่ๆ สวยๆนั่นก็คือภูเขาก้งกา (ไห่หลัวโกว) ครับ
ส่วนอีกมุมมองไปไกลก็คือพื้นที่ราบสูงแล้วครับ
พื้นที่บริเวณนี้สวยงามจึงจอดพักนานหน่อยครับ
วิวปลายทางที่ซินตูเฉียว
ทุกๆคนล้วนเก็บภาพไว้เป็นที่ระทึก

และต่อไปเราจะไปถึงรอยต่อของคังติ้ง กับ ซิบตูเฉียว จะมีวัดถ่ากง(塔公寺)

สถูปบริเวณวัดถ่ากง
ภาพที่ชอบนำไปขึ้นเว็บและปกต่างๆก็คือภาพมุมนี้ครับ

วัดถ่ากง จะมีของเก่าและใหม่ ของเก่าดั่งเดิมเราอยู่ได้แต่นอกๆ ส่วนอันใหม่ที่สร้างขึ้นมาทีหลังเสียค่าเข้า 10 หยวนอยู่เยื้องๆกันไป แต่เราไม่ได้เข้าครับ เสียเวลา

พอใกล้จะถึงซินตูเฉียวจะผ่านลำธารหนึ่งที่มีของแปลกๆ ก็คือ?
ลำธารแห่งนี้มีก้อนหินนับหมื่นก้อน ขนาดก็ไม่เท่ากันมีใหญ่เล็กต่างกัน แต่ทุกก้อนมีการเขียนภาษาทิเบตครับ
เส้นทางบริเวณนี้ยาวเป็นระยะที่เกิน 1 กิโลเมตร
และก็มีสะพานข้ามไปสำหรับขาเดินลุยขึ้นเขา

มันแสดงให้เราเห็นถึงสิ่งที่เรียกว่าศรัทธาของผู้คนบริเวณนี้

โรงแรม Chanel บริเวณเมืองใหม่ที่ซินตูเฉียว

ห้องพักมีฮีทเตอร์ให้ แต่ว่ามันโครตจะหนาวเลย เพราะห้องพักมองออกไปมันติดภูเขาชัดๆ

ในเช้าวันที่ 4 ของการเดินทาง เราก็จากซินตูเฉียวไปอย่างรวดเร็ว ลาก่อยซินตูเฉียว โดยจุดหมายของวันนี้คือเราต้องลุยไปให้ถึงเต้าเฉิง โดยผ่านทางหลวงเส้น 318 ผ่านหลี่ถาง เมืองที่สูงระดับน้ำทะเลประมาณ 4000 เมตร แต่เต้าเฉิงของเราก็ไม่แพ้กัน 3600 ได้ ในทริปเริ่มมีพี่น้องในทริปอาการแพ้ความสูงนิดๆเริ่มมากันและ บนรถมีแต่เสียง ซี้ดดดด อ้าาาาา ! เสียงสูบกระป๋องอ๊อกซิเจนนะครับ อย่าคิดไปไกลมาก

คำเดียวว่า สวย!มีตัวเลขเขียนด้วยว่า 318

ผ่านไปสักพักก่อนถึง เมืองหลี่ถาง เราจะต้องผ่าน แนวเขาค่าจื่อลาซาน(卡子拉山) ที่มีความสูง 4600 เมตร บร๊ะเจ้าาาาา

ชิวๆครับ สูงไปงั้นแหละ แอดมินวิ่งตัวปลิว ลมมันแรงปลิวเลย
แนวเขาบริเวณนั้นนะจ๊ะ

สักพักพวกเราหิวกันและ ในตอนเช้ามีรถบรรทุกชนกัน ทำให้การเดินทางล่าช้าไปบ้าง 2 ชั่วโมงเอง กว่าจะได้กินข้าวกลางวันก็ล่อเข้าไปบ่าย 2 โมงละ

ที่กินอาหารกลางวันอยู่ในกระโจม คนเลี้ยงม้าแห่งที่ราบสูง

กินหม้อไฟเติมไม่อั้น กินจนพุงปลิ้น มีคนคอยเติมให้เรื่อยๆ ทำไมมันดีจริง ทำไมมันดีอย่างนี้ (ขายน้ำมันเครื่องอีกและ)

หม้อทองเหลืองครับ(ไม่ใช่หม้อไฟ)
พนักงานเสริฟประจำกระโจมนะจ๊ะ
ด้านนอกมีม้าให้ชี่นะ (เสียเงิน) โดยคนท้องถิ่นก็จะฝึกขี่ม้าไปแข่งกันในงานแข่งขัน

ก่อนถึงเต้าเฉิง ก็จะมีจุดให้แวะหลักๆ ประมาณ 3 จุดด้วยกัน ก็คือ เขากระต่าย(兔儿山) , ไห่จื่อซาน(海子山) , ทุ่งหญ้าแดง(红草地) ซึ่งความงดงามต่างกัน เปรียบง่ายๆคือ ภูเขา ก้อนหิน ต้นหญ้า ค่อยๆดูภาพไปละกันนะครับ

จุดแรกเลยคือ เขากระต่าย มองไปไกลๆ เขา(คนจีน)บอกว่าเหมือนกระต่าย
จะมีการผูกผ้าตามความเชื่อมากมาย
แผ่นหินเขียนความเป็นมาของเขากระต่าย

ความเป็นมาก็จะคล้ายๆตำนานท้องถิ่นบ้านเราครับ ในที่นี้คือความรักชายหญิงที่ฝ่ายหญิงรวยมว้าก พ่อเป็นเจ้าของที่ถิ่น(ขุนนาง) รักกับชายชาวสามัญ ถูกกีดกันเลยตายด้วยกัน แล้วเกิดมาเป็นภูเขานั่นละครับ แนวๆนี้เลย

จุดต่อมาก็คือ ไห่จื่อซาน

ไห่จื่อซาน ชื่อเป็นทะเล ไห่จื่อ แปลว่าทะเล แต่สถานที่เป็นแนวหิน

มีก้อนหินลักษณะแบบนี้เรียงรายเต็มภูเขาไปหมด

บางคนคิดว่าที่นี่เคยเป็นทะเลมาก่อน แต่จริงๆแล้ว น่าจะเป็นงานมโนของคนโบราณที่ไม่เคยเห็นทะเล เลยคิดว่าคลื่นในทะเล ลักษณะน่าจะเป็นแบบนี้ การตั้งชื่อสถานที่แปลกๆ มีอยู่เต็มไปหมดในประเทศจีนครับ

จุดที่คนชอบถ่ายไว้เป็นที่ระลึก
จุดที่พีคมาก เวลาถ่ายรูป ทุ่งหญ้ากระจุกเดียว แต่ทำไมมันสวยจริง(ในรูป)

ทุ่งแดงจะมีเวลาเปลี่ยนเป็นสีแดงช่วงปลายเดือน 9 ถึงกลางเดือน 10 ครั้งนี้ถือว่าโชคดีมากที่เห็นมันก่อนจะเปลี่ยนสีหมด

สองคำสั้นๆ สวย!มาก!

ภาพหากินของทุกคนก็คือมุมนี้ครับ

พอเปลี่ยนมุมถ่าย ความสวยก็ไม่เปลี่ยนนะครับ คือสวยมาก!

ลาก่อย ทุ่งหญ้าแดง เราเตรียมตัวเข้าเต้าเฉิงกันแล้ว

โดยที่พักเป็นที่พักสร้างใหม่ อยู่ตรงข้ามกับสถูปขาวประจำเมืองเต้าเฉิง ซึ่งในตอนกลางคืนมีการแสดงอวยพรนักท่องเที่ยวด้วย

เสียง สี เสียง และ ควัน
บอกตรงๆครับ อยากนอน อากาศมันเย็น

Exit mobile version