ทริปเดินทาง

รีวิว :: ทริปยูนนาน-กุ้ยโจว(2-8/3/2017) ตอนที่3:ป่าหมื่นยอด และ รอยแยกหม่าหลิงเหอ

มณฑลกุ้ยโจว เมืองซิ่งอี้ ป่าหมื่นยอด รอยแยกหม่าหลิงเหอ

兴义 เมืองซิ่งอี้ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางในวันที่ 3 และ 4 ของการเดินทางในทริปนี้ เมืองนี้เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนมณฑลกุ้ยโจว เป็นเมืองเกิดใหม่เล็กๆ มีเมืองเก่า และ เมืองสร้างใหม่ โดยเมืองเก่าจะตั้งอยู่ใกล้ๆ ป่าหมื่นยอด(万峰林) ส่วนเมืองใหม่จะตั้งอยู่ใกล้ๆ รอยแยกหม่าหลิงเหอ(马岭河峡谷)

ภาพป่าหมื่นเขาในช่วงบ่ายๆ ที่แดดไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่

โดยเราเช่ารถจากเมืองหลัวผิง มาส่งที่เมืองซิ่งอี้กันเลยครับ โดยวิธีการมา “ป่าหมื่นยอด” นี้สามารถนั่งรถเมย์สาย 1 (1 หยวน) หรือ เช่าแท๊กซี่ประมาณ 40 หยวน(ไม่กดมิเตอร์) ราคาตั๋วประมาณ 80 หยวน ค่ารถชมวิว 50 หยวน

ป่าหมื่นยอดนี้ มีแค่ด้านจุดชมวิวเท่านั้นที่รถภายนอกเข้าออกไม่ได้นะครับ

สายชมวิวที่ไม่ใช่สายถ่ายรูปไม่ต้องเข้าไปจุดที่เสียเงินก็ได้นะครับ 

**ป่าหมื่นยอดนั้นลักษณะเด่นของมันคือ เป็น 1 ใน 5 ป่าภูเขาของจีน (นึกไม่ออกก็นึกถึง “จางเจียเจี้ย” ครับ) หรือก็คือ ผิวโลกแบบ Karst นั่นเอง จุดๆนี้ถูกขนานนามว่าเป็น “รังนก” แห่งกุ้ยโจว(มองจากมุมบนลงมานะครับ)**

ป่าหมื่นยอดนั้นเป็นจุดชมวิวแบบเปิดครับ ค่าตั๋ว ค่ารถที่เสียไปนั้น คือมีไว้สำหรับสายถ่ายรูปหรือชมวิวจากที่สูงเท่านั้น โดยเราสามารถเข้าพักที่ตัวหมู่บ้านตรงตีนเขาก็ได้นะครับ ในหมู่บ้านมีรถเมย์ประจำหมู่บ้านด้วย



ถ้ามาถึงตอนกลางวันต้องเตรียมหมวกหรือร่มมาด้วยนะครับเพราะว่า อากาศร้อนมากเพราะเราอยู่บนที่สูง

ถ้าแสงดีกว่านี้ภาพที่ถ่ายได้ออกมาจะสวยกว่านี้มากเลยครับ

ด้านในจุดชมวิว ถ้าจะเดินก็ไม่ต้องซื้อตั๋วรถนะครับ ระยะทางประมาณ 5 กม.

โดยถ้าขึ้นรถอุทยานไปจะมีจุดจอดรถประมาณ 9 จุดครับ

บางจุดไม่มีที่กันแดดอะไรให้เลยครับ อาจจะร้อนโครตๆได้นะครับ

จุดที่สวยงามเหมาะแก่การถ่ายรูปจะมีประมาณ 3 จุดใหญ่ๆครับผม

จุดนี้เรียกว่าจุดยันต์แปดทิศ ถ้ามองไกลๆจะเหมือนป้ายยันต์แปดทิศ

แต่ช่วงที่มาเหมือนเขาจะเก็บเกี่ยวไปแล้วจึงทำให้ยันต์แปดทิศดูแหว่งแบบหนักๆ

จุดนี้เป็นจุดเกือบสุดท้ายในเส้นทางชมวิว

มีความหมายว่าโชคดี จากความเชื่อและการเล่นคำของชาวจีนว่า เขาสามเหลี่ยม 6 ลูก (ออกเสียงเหมือนลัคกี้)

หลังจากลงจากจุดชมวิว รถของอุทยานก็จะพาเราชมหมู่บ้านบริเวณด้านล่างนะครับโดยถ้าเราไม่ต้องการถ่ายภาพจากมุมบนก็ไม่ต้องเสียเงินเสียทองก็ได้ครับเที่ยวด้านล่างได้เลย

ภาพเล็กน้อยจากมุมด้านล่างครับผม

หรือจะมาเพิ่มเติมความหวานให้ชีวิตคู่ก็ได้นะครับแต่หน้าคนปั่นดูเหนื่อยๆชอบกล
มีรถพ่วงชมหมู่บ้านให้บริการด้วยนะ
ทริปนี้ลุยๆ ขากลับนั่งรถเมย์กลับที่พักซะงั้น

วันที่ 3 ของการเดินทางก็จบลงในพรุ่งนี้เช้าเราจะไปลุยรอยแยกหม่าหลิงเหอกันครับผม

ในวันที่ 4 ของการเดินทาง เราจะมุ่งหน้าไปที่รอยแยกหม่าหลิงเหอ ซึ่งสามารถขึ้นรถเมย์สาย 4 จากโซนเมืองใหม่ไปได้สบายๆเลย ถ้าเช่าแท๊กซี่ก็ 50 หยวน โดยประมาณครับ โดยค่าบัตร 80 หยวน ค่าลิฟแก้ว 30 หยวน(เดินลงเองได้นะ) และ ณ เวลาที่ไปน้ำน้อยครับ แต่ก็ยัง…..ดูต่อเองละกันครับ

มาถึงด้านหน้าทางเข้ากันแล้ว

จริงๆมันคือจุดขายตั๋ว ทางเข้าจริงๆต้องเดินไปอีกครับ

เราก็ยังต้องเดินลงสักพักนะครับกว่าจะถึงจุดให้บริการลิฟแก้ว

ณ จุดเริ่มต้นเราสามารถเดินวนได้ไม่ว่าจะวนซ้าย หรือ วนขวา
พอมองไปทางซ้ายก็เจอสะถานแขวนให้รถสัญจรผ่านช่องหุบเขา
พอมองไปทางขวาก็เจอใครเยี่ยวลงมา

พอเดินข้ามสะพานแขวนแล้ว มองดูน้ำในลำธาร ถือว่าน้อยมาก ถ้าเยอะจะมีขบวนล่องแก่งด้วยนะครับ แต่สายน้ำที่ตกลงมากำลังพอดีให้เราได้ถ่ายภาพ

เมื่อมองดูใกล้ๆจะเห็นน้ำไหลลงมาเป็นเส้นเลยครับ

ภาพที่ถ่ายมาแอดมินไม่ได้ใช้ขาตั้งกล้องนะครับ ถ้าใครใช้ขาตั้งกล้องภาพจะสวยกว่านี้เยอะ

ความสวยงามระหว่างทางในขณะที่เดินทางไปยังจุดไฮไลท์

เมื่อหันหลังกลับมามองจะเห็นว่าเราเดินมาไกลพอสมควร
น้ำแห้งมากครับ แต่ต้องบอกว่าน้ำใสมาก
และแล้วเราก็มองเห็นจุดหมายของเราแบบไกลๆแล้ว สะพานแขวน!?

บริเวณนี้เรียกว่า “สิงโตทะเล” มันมีสิงโตทะเลซ่อนอยู่! หาดูจากในภาพนะครับ

บริเวณนี้ก็คือ ม่านน้ำตกที่สวยที่สุดของรอยแยกหม่าหลิงเหอ

ด้านในยังมีอีกนะครับแต่เราเดินไปไม่ได้แล้ว ม่านน้ำตกด้านในต้องอาศัยล่องแก่งชมเอา

สองภาพนี้ถ่ายจากจุดบนสะพานแขวนนะครับ คนเดินไปมาโคลงเครงไม่เบา

ภาพอีกหลายๆมุม เพราะบริเวณนี้มีน้ำตกเล็กๆใหญ่ๆสลับกันเยอะมากครับ

ก่อนจากลาสถานที่นี้ต้องมีภาพก่อนจากครับ

ในเวลากลางคืนโซนเมืองใหม่ก็จะมี ลานกว้างให้เดินเล่นกันได้นะครับ

บริเวณลานกว้างมีตึกมากมายให้เดินชม

***รอยแยกหม่าหลิงเหอ นั้นก่อนที่เปลือกโลกจะเคลื่อนตัวนั้นสถานที่นี้เป็นจุดเลี้ยงม้าหม่าหลิงเหอ ครับ***


Exit mobile version