เริ่มต้นเราจะมาเกริ่นนำถึง มณฑลซานซี ซึ่ง มณฑลซานซีทำไมถึงจัดเป็น จุดกำเนิดของชนชาติจีน อาจต้องท้าวความไปถึง ยุคก่อนยุคชุนชิวกันเลยทีเดียว ก็ประมาณ 1000 กว่าปีก่อนคริศกาล พื้นที่นี้ ซึ่งรวมไปถึง มณฑลส่านซี นั้นเป็นจุดตั้งของราชวงค์ซาง (โจ้วอ๋อง) ซึ่งใครชอบดูนิยายจีน ก็คือช่วงที่มีปิศาจจิ้งจอกเข้ามาทำให้โจ้วอ๋องลุ่มหลง จนทำให้มีกษัตริย์องค์ใหม่ “โจวอู่อ๋อง” บิดาของจีฟา นั้นเอง  ซึ่งราชวงค์โจว เป็นราชวงค์ที่ปกครองแผ่นดินเป็นระยะเวลายาวนานที่สุดของประวัติศาสตร์ชาติจีน โดย คนแซ่จี นั่นเองครับ


วกกลับมายังเรื่องการท่องเที่ยวของเรานะครับ โดยวันที่ 5 นี้เราจะไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวที่ว่าสวยก็สวย ว่าเละก็เละ เพราะยังไม่มีรัฐบาลเข้ามาดูแล นั่นเองครับ นั่นก็คือ “波浪谷-โปลั่งกู่” สถานที่นี้ได้ขึ้นชื่อว่า “ไข่มุกแห่งซานซี” ลักษณะก็จะเป็นพื้นดินเกลียวคลื่น คล้ายๆกันที่ อเมริกา หรือ แม็กซิโก แต่ความสวยสู้ไม่ได้แค่นั้นเองครับ

หุบเขาเกลียวคลื่น โปลั่งกู่
จะเป็นแนวหินอย่างกับหมูสไลด์ เลยครับ

โดยโปลั่งกู่ แห่งนี้ จะตั้งอยู่ในบริเวณเมืองจิ้งเปียน และเป็นเขตที่คนยากจนกันมากๆ ทำให้คนแถวนี้ระดับการศึกษาเฉลี่ยยังไม่สูงเพราะต้องกัดฟันหาเงิน ทำให้การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และ สถานที่ท่องเที่ยวจัดว่าแย่มาก

หุบเขาเกลียวคลื่น โปลั่งกู่ หุบเขาเกลียวคลื่น โปลั่งกู่

ถึงเราจะมีรถมาเอง ก็ต้องใช้รถชาวบ้าน สรุป ต้องโดนเชือดครับ

หุบเขาเกลียวคลื่น โปลั่งกู่
แนวหมูสไลด์

ราคาค่าเชือด ของจะต่างกันไปตามสถานที่ที่เราจะไป โดยปัจจุบันมีทั้งหมด 6 จุด พังไป 1 เหลือ 5 คำนวนเวลาเราไปได้แค่ 3 ก็มืดแล้ว เลยไปแค่ 3 ที่ครับ

หุบเขาเกลียวคลื่น โปลั่งกู่
จุดแรกเราก็ลงไปมุดๆได้

โดยจุดแรกที่เราจะไปนั้น เป็นจุดหลักที่ตั้งชื่อว่า “โปลั่งกู่” แต่บริษัทรับเหมาปรับปรุงสถานที่หนีงานครับ

หุบเขาเกลียวคลื่น โปลั่งกู่ หุบเขาเกลียวคลื่น โปลั่งกู่

มีที่ให้นั่ง หรือ มีราวให้จับตลอดทางเดิน

หุบเขาเกลียวคลื่น โปลั่งกู่ หุบเขาเกลียวคลื่น โปลั่งกู่

โดยจุดแรกนี้ถ้าเดินจริงๆก็ยาวประมาณ 4 กม.ได้ครับ และ หิมะเริ่มลงเม็ดหนาวยะเยือกเลย

หุบเขาเกลียวคลื่น โปลั่งกู่
สู่จุดหมายอันไกลโพ้นนนน
หุบเขาเกลียวคลื่น โปลั่งกู่
แอ่งน้ำก่อนเดินขึ้นผา

เวลาผ่านมาล่วงเลยมาเป็นปี กว่าจะมีเวลาว่างมานั่งเขียน เมื่อมองดูรูปเก่าๆ ก็รู้สึกคิดถึงมากมาย

และจุดที่ 2 ก็ถูกตั้งชื่อโดยเหล่าชาวบ้านว่า หุบเขาเกลียวคลื่นสไตด์วงแหวนภูเขาไฟ 

หุบเขาเกลียวคลื่น โปลั่งกู่ หุบเขาเกลียวคลื่น โปลั่งกู่

สังเกตลายบนพื้นนะครับ อย่าสังเกตรองเท้า เข้าใจตรงกันนะ จบ!

หุบเขาเกลียวคลื่น โปลั่งกู่
หมูสไลด์แบบเฉียงๆ
หุบเขาเกลียวคลื่น โปลั่งกู่ หุบเขาเกลียวคลื่น โปลั่งกู่

จุดที่ 2 นี้เป็นจุดที่เงียบๆ แต่โครตสวยงามเลย วันที่ไปอากาศหนาวมาก ชาวจีนไม่ชอบโดนเชือด คนก็จะน้อยแบบนี้ละครับ 

หุบเขาเกลียวคลื่น โปลั่งกู่
ไม่มีคนเลย
หุบเขาเกลียวคลื่น โปลั่งกู่
ความงามจากธรรมชาติ

อาจเป็นเพราะความเหนื่อยและความต้องเดินไกล แม้แต่กลุ่มของผมก็ขึ้นมากันแค่ 2 คนเองครับ

หุบเขาเกลียวคลื่น โปลั่งกู่
ให้อารมณ์มากมาย
หุบเขาเกลียวคลื่น โปลั่งกู่
บริเวณนี้จะมีหน้าผา

จุดที่ 3 จะมีชื่อว่า “โปลั่งกู่บนพื้นน้ำ” ซึ่งจริงๆก็คือ รอบๆ มันมีทางน้ำไหลผ่านแต่จุดโฟกัสจริงๆ ก็คือแนวหินรูปร่างพิเศษเหมือนเดิมละครับ

หุบเขาเกลียวคลื่น โปลั่งกู่ หุบเขาเกลียวคลื่น โปลั่งกู่
หุบเขาเกลียวคลื่น โปลั่งกู่ หุบเขาเกลียวคลื่น โปลั่งกู่

แถวนี้มีชื่อว่า “ร่องธรรมชาติ”

หุบเขาเกลียวคลื่น โปลั่งกู่
วันนี้อากาศหนาวมาก แต่พี่ท่านนี้ใส่กางเกงแค่ตัวเดียวครับ
หุบเขาเกลียวคลื่น โปลั่งกู่
จากนอนก็มานั่ง
หุบเขาเกลียวคลื่น โปลั่งกู่
หันมาถ่ายผมอีกแหน่ะ!!!
หุบเขาเกลียวคลื่น โปลั่งกู่
แล้วก็ถ่ายกันเอง