ทริปเดินทาง

รีวิว :: ทริปซินเจียงเหนือ[คานาสือ](14-23/9/2019)ตอนที่2:ทะเลสาบคานาสือ(喀纳斯湖)

เล่าเรื่องหลังทริป, เล่าเรื่องต่างแดน, ซินเจียง, ทะเลสาบคานาสือ, มณฑลซินเจียง, คานาสือ, โค้งน้ำพระจันทร์เสี้ยว, โค้งน้ำเทพยาดา, โค้งน้ำมังกรหลับ, หมู่บ้านถูหว่า, หอชมปลา
คานาสือ ทะเลสาบคานาสือ โค้งน้ำเทพยดา โค้งน้ำจันทร์เสี้ยว โค้งน้ำมังกรหลับ หอชมปลา หมู่ถูหว่า ทะเลสาบคานาสือ
ภาพประกอบก่อนอ่าน “ทะเลสาบคานาสือ”

喀纳斯ทะเลสาบคานาสือ เป็นชื่อเรียกทะเลสาบแห่งหนึ่งบริเวณด้านบนสุดของ มณฑลซินเจียง ซึ่งชื่อดั้งเดิมคือ “ทะเลสาบคานาส” หรือ “ทะเลสาบแปลก”

กระโจมระหว่างทาง ก่อนมุ่งหน้าสู่ คานาสือ

คานาสือ หรือ ทะเลสาบคานาสือ เป็นชื่อที่มีมนต์ขลังมากในหมู่นักท่องเที่ยว แต่ระยะทางในการเดินทางก็เหนื่อยโฮก สำหรับสายสบาย ก็แนะนำนั่งเครื่องบินมาลงที่ สนามบินคานาสือ และต่อรถไปได้ใช้ระยะเวลาทั้งหมดประมาณ 3 ชม.เท่านั้นเองแต่ อาจมีการยกเลิกเที่ยวบินกันได้ง่ายๆ เหมือนกันครับ

รูปทางด้านซ้ายคือ เทือกเขาอัลไต การเดินทางทำให้เรารู้ว่าคนไทยไม่ได้มาจากเทือกเขาอัลไตแน่นอน

โดยสิ่งที่เป็นคำร่ำลือให้คนต้องมาเยือน ทะเลสาบคานาสือ นั้น น่าจะเป็นความแปลกของโค้งน้ำที่สวยงามมากๆ และ สามารถเปลี่ยนสีได้เองตามเวลา (วิทยาศาสตร์พิสูจน์ว่าเป็นเพราะแสงนะครับ)


ยืนถ่ายเท่ๆ กับแนวเทือกเขาอัลไต

ในสมัยเราเด็กๆ จะมีหนังสือเรียนที่คอยบอกว่า คนไทยเดินทางมาจากเทือกเขาอัลไต ตัวผมก็คิดว่าอัลไต อยู่แถวๆ ลาว พอเราโดขึ้นเดินทางมากขึ้น พบเจอเทือกเขาอัลไต จึงคิดได้ว่า ถ้าคนไทยมาจากเทือกเขาอัลไตละก็ คนไทยแน่นอนเป็นเผ่าพันธุ์ ที่เข้มแข็งแข็งแรงที่สุดในโลก ฆ่าหมีได้ด้วยมือเปล่าแน่นอนครับ ฮ่าฮ่าฮ่า เพราะระยะทางโครตไกล อากาศในหน้าหนาวติดลบ มีทะเลทรายไร้เขตแดน พื้นที่ไร้สิ่งมีชีวิต อีกมากมาย ถ้าชนเผ่าไทยผ่านมาได้ กะอีแค่หมีฆ่าได้สบายๆ ครับ


และช่วงบ่ายๆ เราก็มาถึงหน้าทางเข้า แวบแรกตกกะใจ ไม่ใช่ความสวย แต่เป็นจำนวนนักท่องเที่ยว ยิ่งเข้าไปย่ิงตกใจ ต่อคิวออกจากอุทยานกันถึง 21.00 น. กันได้สบายๆ โดยเราใช้เวลานั่งรถอุทยานเข้าไปด้านในกันนั้น 50 นาทีได้ นานมาก

ด้านหน้าจ้า

โดยอุทยานคานาสือ นั้น ด้านหน้าขายตั๋วรถ ขายตั๋วบัตรผ่านประตู นั่งรถเข้าไปในอุทยาน ระหว่างทางจะผ่าน 3 โค้งสุดสวย แต่ รถไม่จอดนะครับ ต้องเข้าไปถึงจุดกระจายนักท่องเที่ยวด้านในก่อนนะครับนะครับ โดยจุดกระจายนักท่องเที่ยวนั้นใหญ่มาก จะมีกระจายไป 1.สำหรับคนพักข้างในคือ หมู่บ้านถูหว่า (ชนเผ่าพื้นเมือง) 2.หมู่บ้านไป๋ฮาปา(ชายแดนจีนรัสเซีย ต่างชาติยังเข้าไม่ได้) 3.หอชมปลา 4.จุดนั่งเรือชมทะเลสาบ และ ล่องแก่ง และสุดท้ายรถไปยัง 3 โค้งน้ำ

ปอลิง ตัวโตๆ พวกเราพักในอุทยาน โดยพักใน หมู่บ้านถูหว่าอันใหม่ อันนี้ฟินและธรรมชาติมากๆ ครับ ค่อยมาโม้

วิวสวยๆ งามๆ

โดยหลังจากเข้าที่พัก เราก็แรดออกไป นั่งเรือชมทะเลสาบครับ เพราะคนเยอะไปดูโค้งน้ำแล้วคนเยอะ โอนเป็นอีกวันครับ วันนี้น่าจะเป็นวันที่ 4 ของการเดินทางนะครับ ดองไว้นาน ลืมไปเยอะ

มองไม่เห็นเรือ เพราะอยู่ใต้ตีน
…..
เรือยังไม่จม
บนเรือรูปสุดท้าย
ก่อนตะวันจะตกดิน

หลังจากนั้นฝนก็ตกแบบหนักโครตๆ ก็ต้องลุยฝนจนกลับไปถึงที่พัก กันละครับแต่ฝนตกได้ 1 ชม.ฝนก็หยุดตกละครับ

หมู่บ้านถูหว่ายามเช้า
พระอาทิตย์ค่อยๆ แสดแสงลงมา
ม้าและวัว อยู่ข้างห้องนอนทั้งคืนเลย

ข้อดีของการพักใน หมู่บ้านถูหว่า นั้นคือเป็นธรรมชาติมากๆ ชาวบ้านเลี้ยงม้าเลี้ยงวัว อยู่ข้างๆที่พัก กลางคืนได้ยินเสียงตลอดคืนเลยฮะ

เดินไปยังจุดขึ้นรถ เข้าอุทยาน ระยะทางเพียง 2 กม.
คนเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ
ป้ายรถเมย์คนเยอะมากครับ

จากนั้นเราก็ไปแหกปากกันว่า ต่อคิวด้วยโว้ยยยยย!

ซึ่งจากการเดินทางจากที่พัก ไปยังจุดเปลี่ยนรถ และเราก็จะนั่งรถไปยัง 3 โค้งน้ำ ซึ่งถ้ามีเวลาควรจะเดินไปครับ ไม่แนะนำให้ขึ้นรถอุทยาน เพราะระหว่างทางนั้นสวยมากๆ เดินเพียง 5 กม. เท่านั้น ซึ่งรถจะอุทยานจะเลย ทะเลสาบเป็ด(鸭泽湖) ก็จะถึงโค้งน้ำแรก

โค้งน้ำแรก แห่ง คานาสือ โค้งน้ำเทพยาดา

โค้งน้ำแรกแห่ง ทะเลสาบคานาสือ โค้งน้ำเทพยาดา(神仙湾) มีความพิเศษ คือ หมอกจะค่อยๆ ลอยขึ้นจากผิวน้ำ จนปกคลุมไปทั่ว ถ้ามาสายๆ ก็มองอะไรไม่เห็นแล้วครับ ถ้ามาเลยเที่ยงไปแล้ว หมอกก็จะหายไปหมดครับ เป็นจุดเริ่มต้นของการเริ่มเดินครับ

 

ถ่ายจะเนินเขาด้านตรงข้ามนะครับ จากนั้นถึงเริ่มจะลงไปเดิน

สักหน่อย
เริ่มเดิน
วิวริมทางเดิน ตามทางน้ำ

แสงมันจะหม่นๆ เล็กน้อยเพราะหมอกลงปิดบังแสงแดดครับ!

ระยะทางจุดแรกถือว่ายาวไม่ใช่เล่นครับ
แต่วิวสวย เดินไม่เหนื่อยเท่าไหร่

วิวแปลกๆ มีออกมาเรื่อยๆ แต่ทางเดินบางจุดไม่มีวิวอะไรให้ถ่ายนะครับ

นายแบบจำเป็น!
เจอวัว
ฝูงวัวมองหน้า…

โค้งน้ำที่ 2 แห่งคานาสือ เรียกว่า โค้งน้ำจันทร์เสี้ยว(月亮湾) ซึ่งมีลักษณะ เป็นโค้งเล็กๆ ที่มีส่วนโค้งของพระจันทร์เป็นจุดขาย ซึ่งจุดนี้ถ้าได้เดินตามริมทะเลสาบไปเรื่อยๆ จะมีความสวยงามมาก และจุดนี้ถ้ามีเวลา ก็ยืนชมน้ำทะเลสาบเปลี่ยนสี ก็สวยงามไม่น้อยครับ

บริเวณนี้จะมีจุดชมวิว แต่คนเบียดแย่งกันเยอะมาก
ภาพนี้มีหมอกด้านบนน้ำสีเขียว

ถ้ามีเวลาว่างก็นั่งรอจนหมอกหายไปหมดก่อนนะครับ

สีเปลี่ยน

แดดส่องลงมา สีน้ำในทะเลสาบจะเปลี่ยนไปทันทีเลยครับ

หลังจากแดดออกมาแล้วสีเขียวก็หายไปตลอดและ
สวยจริงๆครับ
รูปสุดท้ายก่อนออกเดินทางต่อ

โดยระหว่างทางเดินไปจุดสุดท้าย จุดที่ 3 โค้งน้ำที่ 3 โค้งมังกรหลับ(卧龙湾) โค้งนี้จะมีขนาดใหญ่ และจะมีเนินดินทราย สวยๆ คล้ายๆ มังกรมุดตัวลงไปนอนหลับอยู่ด้าน จึงเป็นที่มาของคำว่าโค้งมังกรหลับ

วิวข้างทาง

วิวข้างทางระหว่างการเดินทางจาก โค้งน้ำพระจันทร์ ไปยัง โค้งน้ำ มังกรหลับนั้น จัดว่าเป็นเส้นทางเดินที่สวยงามมากๆ เลยครับ

วิวสวยๆ หลายๆ มุม เราต้องมุดนำทาง และ ชาวไล่ ก็จะไล่ตามเรามาทีหลังครับ

อันนี้โครตสวยจริงๆครับ

เดินอีกสักหน่อยวิวค่อยๆเปลี่ยน
เดินจนเพลินล่ะครับ
เดินกันจนถึงเวลานัด ที่นัดกันครับ

เดินกันจนถึง โค้งน้ำมังกรหลับ กันเลยเป็นจุดขึ้นรถออก หรือ ขึ้นรถกลับไปด้านใน

บริเวณนี้คือ บริเวณจุดมังกรหลับ

หลังมังกรโผล่ขึ้นมาอย่างเด่นชัด

จุดที่เป็นสันโผล่ขึ้นมาเรียกกันว่าหลังมังกร

ในช่วงบ่ายจะไปชม “หอชมปลา” ปรากฏว่าไม่ให้ขึ้นแล้วคนเยอะมาก วันนี้คนต่อแถวขึ้นรถออกไปด้านนอกอุทยานต่อกันจนถึง เวลา สองทุ่มเลยนะครับ ตอนเย็นเลยไปเดินเล่นบริเวณ ทะเลสาบเป็ด ซึ่งเช้าหนาว บ่ายร้อน เย็นหนาว อากาศทำให้ป่วยได้ง่ายๆเลยคะรับ

ทางเดินวัดใจไม่มีปลายทาง มีแต่แดดเผาหัว
ฐานบวงสวง สร้างขึ้นใหม่
แอดมินบอกว่า ไหว้เทพเจ้าโพเซดอน เพราะมีสามง่าม

เห็ด!!!

รถผ่านไม่รับกลับ ไม่มีจุดจอดรถ เดินกลับสิครับ

หลังจากนั้นก็กลับที่พัก ยามค่ำคืนของที่นี่ ดาวเยอะและสวยนะครับ

ยามค่ำคืน
สี่ทุ่มปิดไฟ แต่หนาวเกินกว่าจะออกมา
เวลา ขณะถ่าย สองทุ่มครึ่ง ฮะ
ลาก่อนคานาสือ!

รวมระยะเวลาอยู่ในคานาสือ เป็นเวลา 3วัน2คืน ขากลับคนออกพร้อมเราเยอะมาก บอกตรงๆ เวลาไม่พออะ น้อยไป

ยามเช้าก่อนคืนห้อง
……

Exit mobile version