苗族 เผ่าเหมียว หรือที่คนไทยเรียกกันว่า “แม้ว” นั้นเป็นชาวเผ่าที่อาศัยอยู่ในพื้นที่มณฑลกุ้ยโจวเป็นจำนวนมากที่สุดในโลก ทำให้บริเวณด้านล่างก็มณฑลกุ้ยโจวนั้นเป็นที่พำนักอาศัยของชาวเหมียวเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งชาวเหมียวนั้นจะนิยมอาศัยอยู่บนเชิงเขาทำให้การก่อสร้างบ้านพักมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
และในวันที่ 26 กรกฎาคม ในช่วงเช้าก่อนที่เราจะมุ่งหน้าไปที่ “ซีเจียงเชียนฮู้เหมียวไจ้-ค่ายเผ่าเหมียวแห่งซีเจียง-西江千户苗寨” พวกเราได้แวะค่ายเผ่าเหมียวเล็กๆ ระหว่างทางซึ่งเป็นค่ายที่ แทบไม่มีนักท่องเที่ยวมาลง เรียกว่า “ค่ายหล่างเต๋อ-郎德上寨” ปัจจุบันเสียค่าเข้าสถานที่ 60 หยวนแล้วนะครับ คิดซะว่าเป็นค่าเหล้าต้อนรับนักท่องเที่ยวละกันครับ

และยังมีการทำนาแบบสมัยเก่าอยู่นะครับ

หมู่บ้านแห่งนี้เหมาะแก่การมาโฮมสเตย์มากๆเลยครับ ใช้เวลาว่างทำตัวสบายๆ เดินชิวๆ


พอได้เวลาก่อนเที่ยงจะมีการจัดการแสดง พร้อมดื่มเหล้า(อีกแล้ว) ครับ

การแสดงก็จะมีเครื่องดนตรี การเต้นรำ การร้องเพลงพื้นบ้าน เพื่อขอบคุณนักท่องเที่ยวครับ



และในช่วงบ่ายพวกเราก็ได้มุ่งหน้าไป ค่ายเผ่าเหมียวที่ใหญ่ที่สุดในโลกกันแล้วครับ ซึ่งจะแบ่งเป็นประตูเหนือ(北门) กับประตูตะวันตก(西门)แอดมินเลือกประตูเหนือครับ คนน้อยดีแต่ไกลหน่อย เราเหมารถมาแล้วนิครับ

ซึ่งจะอธิบายสักนิดครับ ไม่ว่าจะเข้าประตูด้านไหน ก็สามารถเดินจนทั่วได้นะครับ เพราะจะมีลานกว้างตรงกลางที่เป็นจุดทำนา ตรงนั้นละครับเป็นจุดแบ่งสองส่วน

ซึ่งจำนวนครัวเรือนเผ่าเหมียวในบริเวณนี้ก็ต้องบอกว่า หลักพัน ขึ้นเลยครับ

นักท่องเที่ยวรออะไรกัน?
คำตอบคือ:รอฟ้ามืดจะถ่ายภาพบรรยากาศตอนกลางคืนนั่นเองครับ


![]() |
![]() |
ภาพซ้าย:เด็กชาวเขากำลังเอาโดรนขึ้นบิน
ภาพขวา:พระจันทร์สวยจริงๆ

วิวยามค่ำคืนของที่นี่เป็นสิ่งขึ้นชื่อไว้ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมครับ


ก่อนกลับเข้าที่พักก็ฝากภาพไว้อีกสักหน่อย
ในเช้าวันที่ 27 กรกฎาคม สมาชิกก็ออกไปถ่ายรูปยามเช้ากันแต่ ตัวผมขอนอนอู้ยาวๆ ครับ วันนี้ทั้งวันจะเป็นการเดินทางไปสู่ เมืองเจียงโค่ว ใกล้ๆ เขาฟานจิ้งนั้นเองครับ ช่วงเช้าเลยว่างให้เที่ยวในค่ายเผ่าเหมียวกันต่ออีกยาวๆเลย
ในวันที่ 28 กรกฎาคม เป็นวันที่เหนื่อยโครตๆ ครับ กับสถานที่มีชื่อว่า “เขาฟานจิ้ง-梵净山” เพราะเพิ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก มาใหม่ๆ หมาดๆ คนจึงเยอะแบบมากๆเลยครับ ถ้าไปถึงช้าบัตรหมด กลับบ้านทันทีกันเลยทีเดียวเชียว แต่ความสวยงามยังไม่เปลี่ยนไปจากสมัยก่อนนะครับ

ค่าเข้าหน่ะไม่แพง มันจะไปแพงค่ากระเช้าแทนหน่ะครับ บัตร 110 หยวน รถอุทยาน 20 หยวน กระเช้า 160 หยวน


![]() |
![]() |
เป็นอีกครั้งที่แอดมินไม่ได้พิชิตด้านบนสุด เพราะคนมันเยอะเกินจะต้านทาน


จากสมัยก่อนที่โล่งโจ้ง ไร้คนต่อแถวนะครับ


ถามแอดมินว่าคนเยอะขึ้นเท่าไหร่ ก็ตอบได้เลยครับ
100 เท่า
และทำให้คืนนี้กว่าจะถึงที่พักก็ ปาเข้าไป 23.00 น.กันไปเลย โดยเราจะพักกันที่เมืองโบราณ “เจิ้นเหยี่ยน-镇远古城” ซึ่งเป็นเมืองปากแม่น้ำ ซึ่งในเวลาค่ำคืนจะสวยงามมาก จากที่ทุกๆคนเหนื่อยๆ แต่ก็ไม่ยอมนอนกันครับ



ในวันที่ 29 กรกฎาคม สถานที่สุดท้ายก่อนที่เราจะกลับ “กุ้ยหยาง” เพื่อเดินทางกลับ “คุนหมิง” ก็คือถ้ำที่อยู่ตรงข้ามที่พัก ถ้ำชิงหลง ครับ สถานที่นี้สร้างขึ้นในสมัยราชวงค์หมิง ด้านในมีวัตถุโบราณล้ำค่ามากมาย (ปัจจุบันโดยเก็บไปหมดแล้ว) จึงเหลือแต่ความงดงามของโบราณวัตถุ เท่านั้น


![]() |
![]() |
เมืองนี้ถ้ามีเวลาเยอะสักหน่อยก็คุ้มค่าที่จะอยู่สักสองคืนนะครับ



หลังจากนั้นพวกเราก็เดินทางกลับ กันและครับไม่ขอพูดถึงแล้ว แฮร่!!! จบ