贵州กุ้ยโจว เป็นมณฑลที่เพิ่งได้รับการส่งเสริมอย่างจริงจังในด้านการท่องเที่ยว ทั้งๆที่ ในมณฑลกุ้ยโจวแห่งนี้มีอุทยานหลายแห่งที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นมรดกโลก ซึ่งในช่วง 3 ปีมานี้ก็ได้มีการเสนอชื่อไปแล้ว 2 แล้วแห่ง และในทริปนี้ก็ได้ไปด้วยนะครับผม ซึ่งก็คือ อุทยานเขาฟานจิ้ง(梵净山) และ อุทยานเจ็ดหลุมเล็ก(小七孔) ซึ่งในรอบนี้ก็ยังไม่ถือว่าเที่ยวครบสถานที่หลัก 100% นะครับ น่าจะแค่ 80% เท่านั้น 20% ที่เหลือ จะอยู่ที่เมืองซิ่งอี้ ซึ่งแอดมินไปมาแล้วในปี 2017 แอดมินจะไม่เขียนริวิวยาวนะครับ ไปมาแล้วเล่ามากเจ็บคอ!

ในวันที่ 22 กรกฎาคมนั้น วันแรกของการเดินทางพวกเรารวมตัวกันที่ มหานครคุนหมิง มณฑลยูนนาน พักบริเวณใจกลางเมือง เผื่อใครอยากถ่ายไฟครับผม เพราะว่าไม่มีเครื่องบินที่บินตรงไปยังมณฑลกุ้ยโจวนะครับ

กว่าจะมาถึงคุนหมิงกันก็ประมาณบ่าย 2 โมงครึ่ง ก็ตีรถเข้ากลางเมืองกันไปเลยครับ

ในช่วงเวลา  17.00 น. ก่อนคนออกมากินข้าวกัน พวกเราไปกิน สุกี้บุฟเฟ่กันนะครับ

เมื่อเรากินกันเสร็จ สภาพหน้าร้านก็จะเป็นแบบนี้ครับ

ในเช้าวันที่ 23 กรกฎาคม เวลา 4.30 น. รถก็จะมารับเราไปส่งที่สถานีรถไฟความไวสูงเพื่อมุ่งหน้าไปยัง มณฑลกุ้ยโจว ซึ่งเราจะถึงเมืองอันสุ่น ในเวลาประมาณ 9.30 น. ก็มุ่งหน้าตรงไปยังอุทยานน้ำตกหวงกั่วซู่กันเลยครับ จะเล่าไวนิดนึงนะครับ ตอนนี้อายุเกิน 60 ปีเข้าฟรีแล้ว เสียแค่ค่ารถอุทยาน ควรกินข้าวด้านนอกจึงค่อยเข้าไปนะครับ ด้านในมีจุดเที่ยวชม 3 อุทยานย่อยด้วยกัน คือ 1.น้ำตกโต่วโพถาง(陡波塘瀑布) 2.สวนสะพานดวงดาว(天星桥) 3.น้ำตกหวงกั่วซู่(黄果树瀑布) ซึ่งปลายเดือน 7 เป็นช่วงที่คนเยอะมาก แอดมินจึงพาไปแค่ สะพานดวงดาว และ น้ำตกหวงกั่วซู่ อ่านรีวิวได้ในรีวิวเก่าๆนะครับ <<น้ำตกหวงกั่วซู่>>

ถ้ามาช่วงหน้าแล้งก็จะไม่มีน้ำให้ชมนะเออ

ด้านในจะมีถ้ำขนาดใหญ่พอตัวแต่ปลอดภัยไม่ต้องกลัวติดน้ำด้านในครับ

ชื่อถ้ำเรียกง่ายๆว่า “ถ้ำสะพานดวงดาว”

น้ำตกบริเวณอุทยานเทียนซิงเฉียว(สะพานดวงดาว)

แอดมินขอข้ามตอนต่อคิวขึ้นรถนะครับ แม่มโครตน่ากลัวเลย ไปโผล่อีกทีที่น้ำตกหวงกั่วซู่กันเลยดีกว่า

บริเวณน้ำตกเราสามารถเดินลอดได้นะครับ ซึ่งเหมือนคิวคนจะเยอะแต่ใช้เวลาไม่นานครับ มาแล้วต้องลอด

ในวันที่ 24 กรกฎาคม ในช่วงเช้าเราจะไปแวะ เมืองโบราณชิงเหยียน ที่อยู่ใกล้ๆ กับ เมืองกุ้ยหยางกันนะครับ สถานที่แห่งนี้ในสมัยก่อนก็คือเมืองหน้าด่าน นั่นเอง จะสังเกตได้จากกำแพงเมือง ที่สูงมากๆเลยนั่นเองครับ สามารถใช้เวลา 1 วัน 1 คืนในการเที่ยวเมืองนี้นะครับ เพราะต้องปีนกำแพงนั่นเอง

ในการรับมือข้าศึกในสมัยก่อน ด้านหน้าเมืองจำเป็นต้องมีแหล่งน้ำครับ

ซึ่งตามกำหนดการเดิมในวันนี้เราจะไปเที่ยวอุทยานเจ็ดหลุมใหญ่กันก่อน ซึ่งจะถึงก่อนเวลา 16.30 น. แต่เมื่อเวลา 16.20 น. เราไปถึง อุทยานเพิ่งเปลี่ยนเวลาปิดเป็น 16.00 น. จบเลย ได้ถึงที่พักไวเลย จากปกติ 20.00 น. ถึงจะถึง เซ็งมากๆ วันนี้จึงจัดสุกี้อีกแล้ว คนกินก็เอียนกันได้ที่เลยครับ

ในเช้าวันที่ 25 กรกฏาคม เราออกกันแต่เช้าเลยครับ แต่คนจีนเช้ากว่าเราอีกแหน่ะ อุทยานเจ็ดหลุมเล็กคนทะลักมหาศาล แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นคือฝนตกหนักครับผม อุทยานแห่งนี้ต้องเดินเป็น ระยะทางกว่า 10 กม.นะครับ เดินจากฝั่งนึงไปทะลุอีกฝั่งนึง แล้วค่อยนั่งรถกลับ แนะนำว่าให้ไปเริ่มที่ประตูตะวันออกนะครับ “ตงเหมิน-东门” เพราะจุดไฮไลท์ของมันจะอยู่ทางฝั่งตะวันออกเป็นส่วนใหญ่ครับผม ปล.บัตรซื้อแล้วเข้าออกได้ 2 วันนะครับดีมากๆเลย

***เกร็ดความรู้เพิ่มเติม อุทยานเจ็ดหลุมเล็กนั้น บริเวณสะพานเจ็ดหลุดนั้น สมัยโบราณเป็นจุดสำคัญทางยุทธศาสตร์ เพราะเป็นสะพานที่ใช้เชื่อมต่อ มณฑลกุ้ยโจว กับ มณฑลกว่างซี มีความสำคัญมากในการขนส่งสินค้า ถ้าให้เปรียบเทียบกับปัจจุบันก็คือจุดเชื่อมต่อชายแดนประเทศนั้นเองครับ***

ถ้าฝนไม่ตกคงจะสนุกกว่านี้

วันนี้แอดมินไม่สนุกเท่าไหร่ เพราะที่พักมันทะยอยโทรมาแคนเซิลกันเป็นลำดับ ซึ่งมันทำผิดครับแต่เราต้องสู้ สู้แล้วเซ็ง

หลายๆจุดแอดมินไม่ได้ถ่ายรูปมานะครับ เพราะฝนตกตลอดเลยกลัวกล้องจะพัง

ส่วนเจ็ดหลุมใหญ่แอดมินไม่ได้ถ่ายรูปมานะครับโครตเหนื่อย แต่ลักษณะจะคล้ายๆ หลุมฟ้าของอู่หลงครับ