น่ามู่ชั่ว:ทะเลสาบแห่งสวรรค์
纳木错:namucuo
เหตุผลที่จัดว่าสวยที่สุด : “ทะเลสาบแห่งสวรรค์” คือคำนิยามของน่ามู่ชั่ว. ในปีที่ 60-70 แห่งการเปลี่ยนแปลงทางภูมิทัศน์ของหิมาลัย และภายหลังเพราะอิทธิพลของพื้นที่ราบสูงแห่งทิเบตประกอบกับความแห้งแล้งของอากาศทำให้พื้นที่ทะเลสาบเล็กลงเป็นอันมาก จึงกลายมาเป็น “น่ามู่ชั่ว” ในปัจจุบัน ทะเลสาบน่ามู่ชั่วอยู่ในระดับความสูงน้ำทะเล 4718 เมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 1900 ตาราางกิโลเมตร เป็นทะลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศจีน แต่เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่สูงที่สุดในโลก. จุดที่ลึกที่สุดมี่ความลึกถึง 33 เมตรขึ้นไป. น่ามู่ชั่ว ถือเป็น1ใน3ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ของทิเบต. รอบๆทะเลสาบจะมีกอง “มาเนอะ”(ก้อนหินทรงต่างที่ชาวทิเบตชอบนำมาซ้อนกันเพื่อบูชาเทพเจ้า) วางอยู่เต็มไปหมด ทำให้ทะเลสาบแห่งนี้มีกลิ่นอายที่หนาแน่นแห่งศาสนา และยังอุดมไปด้วยทุ่งหญ้าเขียวขจี จึงกลายเป็น ฟาร์มตามธรรมชาติ เป็นที่หยุดพักอาศัย ของสัตว์นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น เก้ง กวาง อูฐ จามรี วัวป่า สุนัขจิ้งจอก เป็นต้น ทุกปีในตอนต้นฤดูร้อนจะมีฝูงเป็ดป่าจำนวนมากบินมาพักอาศัย เป็นการบอกกล่าวตามธรรมชาติว่า ฤดูได้เปลี่ยนไปแล้ว.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การท่องเที่ยว : เดือน7~เดือน9 จริงๆไปหลังเดือน10 ก็สวยครับเป็นสีขาวโพลนเลย
จุดวิวทิวทัศน์ที่สวยที่สุด : หินต้อนรับแห่งน่ามู่ชั่ว(纳木错迎宾石-น่ามู่ชั่วอิ่งเจียสือ),หินประกบฝ่ามือ(合掌石-เหอจั่งสือ),ถ้ำดีเลว(善恶洞-ซ่านเอ้อต้ง),รูปวาดผนังหินโบราณ(古岩壁画-กู่เหยียนปี้ฮว้า)
สถานที่ตั้ง : เขตปกครองตนเองทิเบต
![]() |
![]() |
ระดับความสูงน้ำทะเล 4718 เมตร ความยาวจากตะวันออกถึงตะวันตก 70 กม. จากทิศใต้ถึงเหนือกว้าง 30 กม.มีเนื้อที่ 1940 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่บนที่ราบสูงบนมณฑลชิงไห่ และ เขตปกครองตนเองทิเบต ชุ่มชื้นมากหรือแห้งแล้งมาก ขึ้นอยู่กับฤดูกาล สภาพอากาศในแต่ละช่วงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทุกปี เดือน 6~ 10 จะถือเป็นหน้าฝน เดือน 11~ ปีถัดมาเดือน 5 ถือเป็นหน้าแล้ง ลมที่รุนแรงถือเป็นจุดเด่นของระบบนิเวศน์ที่โดดเด่นของ น่ามู่ชั่ว มีพันธุ์ไม้เลื้อยปกคลุมในทุกฤดู ไม่ว่าจะเป็นบนผืนดินในช่วงฤดูร้อน หรือธารน้ำแข็งในช่วงฤดูหนาว. ริมทะเลสาบมักมี สัตว์นานาพันธุ์มาหาอาหารไม่ว่าจะเป็นลา หมาหมี กระต่ายป่า เซอรี่(ตัวคล้ายเสือดาวแต่หน้าเป็นแมวขนยาวๆ) สุนัขจิ้งจอก กวาง จามรี อื่นๆ. ในทะเลสาบอุดมสมบรูณ์ไปด้วย ปลาไร้เกล็ด และ ปลาเกร็ดเล็ก แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดเห็นจะเป็น หินต้อนรับ(หินสามีภรรยา),หินประกบฝ่ามือ,ถ้าดีเลว,ภาพวาดฝาผนังโบราณ
หินต้อนรับ – น่ามู่ชั่วอิ่งเจียสือ(纳木错迎嘉石)
ถือเป็นเทพเฝ้าประตูของทะเลสาบน่ามู่ชั่ว ตามตำนาน”น่ามู่ชั่ว”ก็คือเทพสตรีนางหนึ่ง นางดูแลและปกครองความอุดมสมบรูณ์ทั่วทั้งทิเบตเหนือ เพราะฉะนั้นพ่อค้าที่จะออกไปทำการค้าต่างถิ่น จำเป็นต้องมายังทะเลสาบนี้เพื่อขอพร และสวดอวยพร โดยจะมายังที่หินต้อนรับซึ่งถือเป็นเทพเฝ้าประตูเพื่อขออนุญาติในการสวดขอพรกับ “เทพน่ามู่ชั่ว” ในการให้เทพบันดาลพรปกปักษ์กิจการของตนเอง
หินประกบฝ่ามือ – เหอจ่างสือ(合掌石)
หรือเรียกว่าหินพ่อแม่ ตามตำนาน หินพ่อคือร่างจำแลงของ “เนี่ยนชิงถางกู่ลาซานเฟิง” และหินแม่คือร่างจำแลงของ “เทพธิดาน่ามู่ชั่ว” เป็นตัวแทนแห่งความรักที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงของทั้งสองคน. และ อีกตำนานหนึ่งได้กล่าวไว้ว่าหินก้อนนี้เป็นสัญลักษณ์ที่กำเนิดขึ้นในตอนที่ ปรมาจารย์เหลียนฮวาเซิง แห่งสำนักหนิงหม่า บำเพ็ญเพียรสวดมนตร์อวยพรแก่เหล่าสรรพสัตว์.
ถ้ำดีเลว – สั้นเอ้อต้ง(善恶洞)
พุทธศาสนาของชาวทิเบตได้กล่าวไว้ว่า ไม่ว่าคุณจะทำดี หรือ ทำชั่ว สวรรค์ย่อมรู้ดี ก็เหมือนคุณมุดลอดผ่านถ้ำดีเลว ไม่ว่าคุณจะ อ้วน ผอม สูง เตี้ย แค่เดินไปตามทาง คุณก็สามารถลอดออกมาได้ และ เมื่อนั้นคุณควรสำนึกถึงความผิดที่ได้ทำและแก้ไข. และแน่นอน ถ้ำดีเลวก็แค่นาฬิกาเรือนหนึ่ง ที่พุทธองค์ให้ไว้เพื่อเตือนใจมนุษย์โลก
ภาพวาดผนังหินโบราณ – กู่เหยียนปี้ฮว้า(古岩壁画)
ระยะเวลาย้อนไป พันกว่าปีของประวัติศาสตร์นับจากปัจจุบัน ภาพวาดได้บอกเล่าเรื่องราว การล่าสัตว์ และสภาพการล่าสัตว์ในสมัยนั้น และ ยังบอกกล่าวถึงสัตว์ต่างๆ พันธุ์ไม้ และ ทิวเขา.
![]() |
![]() |
แนะนำ
•สถานที่ : ตั้งอยู่ระหว่างเมือง ตังสง(当雄县)กับเมือง น่าชวีตี้ชวีปันเก๋อ(那曲地区班戈县)***สรุปง่ายๆคือ ห่างจากเมืองลาซาไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ200กม.
•การเดินทาง : เหมารถเช่า 4WD จากลาซาไป คันละ 600~800 หยวน ถ้าข้ามวันจะบวกเพิ่ม 200~300 หยวน หรือ ซื้อตั๋วรถ 1 ที่นั่งได้จากบริษัททัวร์ทุกแห่งในเมืองลาซา ไปเช้า เย็นกลับ 150 หยวน ค้างคืน 180 หยวน ค่าที่พักค่ากินหาพักและออกกันเอง. ตัวผมแนะนำ หาคนมาช่วยกันเหมารถง่ายสุด ที่พักหรือสถานที่สาธารณะในเมืองลาซา จะมีจุดติดโพสต์อิน หาผู้ร่วมเดินทางครับ
•ผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อ : ถั่งเช่า , เป่ยหมู่ (หญ้าชนิดหนึ่งรูปร่างเหมือนหอยแก้ไอลดเสมหะได้ดีเยี่ยม) , บัวหิมะ และ สมุนไพรหายากอีกหลายชนิด