เกาะเสม็ด-จังหวัดระยอง
ประวัติ เกาะเสม็ด
เชื่อกันว่า คือ เกาะแก้วพิสดาร ในวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี ของสุนทรภู่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อของระยอง ที่ได้รับความนิยมทั้งจากชาวไทยและต่างประเทศ ตั้งอยู่ตำบลเพ อำเภอเมือง อยู่ห่างจากชายฝั่งบ้านเพประมาณ 6.5
กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 3,125 ไร่ มีลักษณะเป็นเกาะรูปสามเหลี่ยม ส่วนฐานของเกาะอยู่ด้านทิศเหนือ ซึ่งหันเข้า
สู่ฝั่งบ้านเพ มีภูเขาสลับซับซ้อนกันอยู่ 2-3 ลูก มีที่ราบอยู่ตามริมฝั่งชายหาด ส่วนใหญ่จะอยู่ทางด้านเหนือ และตะวันออก
เหตุที่มีชื่อว่า ” เกาะเสม็ด ” เพราะเกาะนี้มีต้น เสม็ด ขาว และ เสม็ด แดงขึ้นอยู่มาก ซึ่งในอดีตชาวบ้านนำมาใช้ทำไต้จุดไฟ บน เกาะเสม็ด ไม่มีแม่น้ำลำคลอง ประมาณ 80% ของพื้นที่ เป็นภูเขาและป่าไม้เบญจพรรณ ฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือน
พฤษภาคม-กันยายน ช่วงเดือนพฤษภาคมมีมรสุมและคลื่นลมจัดมาก เดือนสิงหาคมมีฝนตกชุก
เกาะเสม็ด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเล ที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ในปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ เพราะลักษณะทางภูมิประเทศที่นักท่องเที่ยว สามารถเล่นน้ำ และทำกิจกรรมต่างๆ ได้หลากหลาย นักท่องเที่ยวยังสามารถเช่าจักรยาน หรือมอเตอร์ไซค์ ขี่เล่นได้ ท่านสามารถชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมาก
ที่พัก เกาะเสม็ด โดยทั่วไปมีหลายราคา และในแต่ละรีสอร์ทก็จะมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไป มีทั้ง รีสอร์ท โรงแรม และบังกะโล ให้ท่านได้เลือกมากมาย โดยทั่วไปนักท่องเที่ยวควรจะทำการจองห้องพักไว้ก่อน เพื่อความสะดวก และความแน่นอนในการได้ห้องพัก และราคาที่ถูกกว่า โดยเฉพาะช่วงเทศกาลต่างๆ
การเดินทาง เกาะเสม็ด
รถยนต์ สามารถใช้เส้นทางได้หลายเส้นทาง ได้แก่
เส้นทางแรก ทางหลวงหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) จากกรุงเทพฯ ผ่านอำเภอบางปู อำเภอบางปะกง จังหวัดชลบุรี บางแสน ศรีราชา พัทยา หาดจอมเทียน สัตหีบ อำเภอบ้างฉาง ไปจนถึงอำเภอเมือง จังหวัดระยอง รวมระยะทางประมาณ 220 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 2 ทางหลวงหมายเลข 34 (ถนนบางนา-ตราด) เริ่มจากตรงจุดสิ้นสุดทางด่วนด่านเฉลิมนคร อำเภอบางนา ผ่านอำเภอบางพลี อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ และเชื่อมต่อกับทางหลวงหมายเลข 3 ที่กิโลเมตรที่ 70 อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา หลังจากนั้นก็จะผ่านเส้นทางเดียวกันกับเส้นทางที่ 1 รวมระยะทางประมาณ 220 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 3 ทางหลวงหมายเลข 36 (บายพาส 36) จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางเดียวกับเส้นทางที่ 2 จนถึงกิโลเมตรที่ 140 อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่เส้นทางหลวงหมายเลข 36 จากนั้นให้เดินทางต่อไปยังจังหวัดระยองด้วยระยะทาง 70 กิโลเมตร รวมระยะทางประมาณ 210 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 4 ทางหลวงหมายเลข 344 (ถนนสายบ้านบึง-แกลง) เริ่มจากจังหวัดชลบุรี ผ่านอำเภอบ้านบึง หนองใหญ่ อำเภอวังจันทร์ และสิ้นสุดที่อำเภอแกลง เป็นระยะทาง 100 กิโลเมตร (กรุงเทพฯ-ชลบุรี 80 กิโลเมตร) เส้นทางเส้นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปยังแหล่งที่องเที่ยวในเขตอำเภอแกลง หรือเดินทางไปยังจังหวัดจันทบุรี หรือจังหวัดตราด และหากต้องการที่จะเดินทางเข้าสู่อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ให้ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 3 โดยย้อนกลับมาอีกประมาณ 42 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 5 ทางหลวงหมายเลข 7 (สายมอเตอร์เวย์) เริ่มจากถนนพัฒนาการ เขตประเวศ กรุงเทพฯ ไปสิ้นสุดที่ จังหวัดชลบุรี ระยะทาง 75 กิโลเมตร จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 36 เป็นระยะทาง 100 กิโลเมตร จนถึงอำเภอเมือง จังหวัดระยอง รวมระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 175 กิโลเมตร
รถโดยสารประจำทาง จาก สถานีขนส่งสายตะวันออก ( เอกมัย) มีรถประจำทางไปยังตัวจังหวัดระยอง และอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดหลายเส้นทาง ได้แก่ สายกรุงเทพฯ – ระยอง, บ้านเพ, แกลง, แหลมแม่พิมพ์, มาบตาพุด, ประแสร์ เป็นต้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2391 2504 สถานีเดินรถโดยสาร จังหวัดระยอง โทร. 0 3861 137 9 และมีบริษัทเดินรถเอกชนที่วิ่งบริการ เส้นทางสายด่วน มอเตอร์เวย์ ได้แก่ บริษัท ระยอง ทัวร์ โทร. 0 2712 3662 สาขาระยอง โทร. 0 38 86 1 354-5
จาก สถานีขนส่งหมอชิต ถนนกำแพงเพชร 2 มีรถโดยสารประจำทางทั้งรถ ธรรมดา และรถปรับอากาศชั้น 2 หมอชิต- ระยอง ออกทุก 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 04.30-16.30 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2936 2841 ส่วนรถปรับอากาศสายด่วน วิ่งเส้นบางนา-ตราด ออกตั้งแต่เวลา 04.30-21.00 น. ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ระยองทัวร์ กรุงเทพฯ โทร. 0 2 936 1216 สาขาระยอง โทร. 0 3886 1354-5
การเดินทางจากบ้านเพไปเกาะเสม็ด
จากท่าเรือบ้านเพ มีเรือโดยสารบริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง (รอผู้โดยสารอย่างน้อยประมาณ 20 คนจึงออกเรือ) ค่าโดยสารระหว่างบ้านเพ-หาดทรายแก้ว (ท่าเรือหน้าด่าน)ไป-กลับ 100 บาทเรือเมล์ 8.00 – 16.00 น.ใช้ เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที และเรือ speed boat ราคาประมาณ 1,500 – 2,600 บาทต่อเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมงขึ่นอยู่กับจำนวนคนและขนาดของเรือ (รายละเอียดด้านล่าง) จากบ้านเพไปหาดต่างๆ ถ้าท่านพลาดเรือที่ไปยังอ่าวๆต่างๆที่ออกเป็นเวลาท่านสามารถนั่งเรือมาลงท่าเรือหน้าด่าน ค่าโดยสารประมาณ 50 บาทต่อคนใช้เวลาประมาณ 40 นาที ที่นี่มีบริการรถสองแถวและมอเตอร์ไซต์ ไปยังหาดต่างๆ ราคาขึ้นอยู่ระยะทางไปหาดนั้นๆ จากบ้านเพ-อ่าววงเดือน และะมีเรือออกเวลา 9.30 , 13.30 , 15.30 น. (ท่าเรือสะพานใหม่)ไป-กลับ 120 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ท่าเรือนวลทิพย์ โทร. 0 3865 1508, 0 3865 1956
การเดินทางบนเกาะเสม็ด
บนเกาะมีถนนสายเดียวเป็นทั้งคอนกรีตบ้างสลับกับลูกรังและดิน สองแถวดูจะเป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุด อัตราค่าโดยสาร หาดทรายแก้วคนละ 10 บาท เหมา 100 บาท อ่าวไผ่คนละ 20 บาท เหมา 150 บาท อ่าวพร้าวอ่าววงเดือนคนละ 30 บาท เหมา 200 บาท อ่าวหวาย อ่าวเทียน 40 บาทต่อคน เหมา 300-400 บาท อ่าวกิ่วคนละ 50 บาท เหมา 500 บาท สำหรับนักท่องเที่ยวที่รักการจญภัยและสนใจมอเตอร์ไซต์เช่า ขับไม่คล่องอย่าลองจะดีกว่าเพราะสภาพถนนเป็นดินสลับหินและลาดชัน ราคาเริ่มต้น 300 บาทต่อวัน ขึ่นอยู่กับการต่อรอง
เมื่อขึ้นเรือที่ท่าศาลาแล้ว สามารถที่จะนั่งรถสองแถว ไปอ่าวต่างๆ ได้ อัตราค่าโดยสาร ดังนี้
ท่าศาลา
|
คนละ/บาท
|
เช่าเหมา/บาท
|
หาดทรายแก้ว | 10 | 100 |
อ่าวไผ่ | 20 | 150 |
อ่าวพร้าว | 30 | 200 |
อ่าววงเดือน | 30 | 200 |
อ่าวเทียน | 40 | 300 |
อ่าวหวาย | 40 | 400 |
อ่าวกิ่ว | 50 | 500 |
ชายหาด
หาดต่างๆ ส่วนใหญ่อยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะ แต่ละหาดอยู่ในอ่าวเล็ก ๆ มีความยาวประมาณ 200 เมตร เรียงตามลำดับจากทิศเหนือไปทิศใต้ ดังนี้ หาดทรายแก้ว หาดหินโคร่ง หาดคลองไผ่ อ่าวพุทรา อ่าวทับทิม อ่าวนวล อ่าวช่อ อ่าวคอก อ่าวเทียน อ่าวหวาย อ่าวกิ่วหน้านอก อ่าวกะรัง ทางด้านตะวันตกมีหาดทรายอยู่แห่งเดียว คือ ที่อ่าวพร้าว จากหาดทรายแก้วและหาดวงเดือน สามารถเดินทางไปหาดอื่น ๆ ได้โดยใช้บริการรถรับจ้าง หรือเดินเท้าไปเอง สถานีเพาะพันธุ์ปลา กรมประมง ตั้งอยู่บริเวณอ่าวน้อยหน่า
หาดทรายแก้ว ชายหาดที่คุ้นหู ที่สุดของนักท่องเที่ยว ที่มาถึง เกาะเสม็ด ถ้าคุณเป็นนักท่องเที่ยว ที่ชอบความหลากหลาย หาดทรายแก้ว เป็นอีกหนึ่งหาด ที่คุณจะชอบ เพราะหาดนี้ไม่เคยหลับ เรียกว่า ตอนเช้าเล่นน้ำทะเล กลางวันอาบแดด ตอนเย็นชมพระอาทิตย์ตก พอค่ำหน่อยก็ดื่มกินอาหาร หรือจะมีแอลกอฮอล์นิดหน่อย เคล้าแสงจันทร์ก็ดูไม่เลว มีกิจกรรมให้ทำ ทั้งวันที่ หาดทรายแก้ว เหมาะสำหรับคนขี้เหงา และชอบความพลุกพล่าน ของผู้คน ที่หาดนี้ เป็นแหล่งรวมของเครื่องเล่นกีฬาทางน้ำ ทุกประเภท ที่มีบนเกาะทั้งเจ็ทสกี บานาน่าโบต เรือใบ ฯลฯ เอาเป็นว่า หาดนี้ หาดเดียวกับวันพักผ่อนหรือ วันหยุดสุดสัปดาห์ ก็ทำให้คุณลืมเวลาได้ไม่ยาก
หาดวงเดือน อ่าวที่คุ้นหูนักท่องเที่ยวอีกอ่าวหนึ่ง เพราะเรือโดยสารประจำทาง ที่มาจากท่าศาลา จะมาส่งนักท่องเที่ยว ที่อ่าวนี้ เป็นประจำ ถ้าจะบอกว่า เป็นป้ายสุดท้าย ของเรือโดยสารก็ไม่ผิดนัก อ่าววงเดือน คึกคักพอๆ กับ หาดทรายขาว แต่ที่อ่าววงเดือน คุณสามารถเลือกได้หลายบรรยากาศ ถ้าต้องการความสงบเงียบ ก็ต้องทางด้านหัวอ่าว ส่วนคนที่รักความคึกคัก ต้องเลือกกลางอ่าว ถ้าชอบนั่งกินบรรยากาศ ให้คุณเลือกตามความต้องการอย่างที่บอก
หาดคลองพร้าว หาดเดียวที่อยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะ ลักษณะเป็นหาดกว้างครึ่งวงกลมมองเห็นฝั่งได้ ชมพระอาทิตย์ตกได้สวยงามที่สุด และบรรยากาศสงบ ที่พักไม่มากจึงมีความเป็นส่วนตัว เล่นน้ำได้ดี ชายหาดที่กว้างยังเหมาะกับกีฬาริมหาด
อ่าวช่อ/อ่าวทานตะวัน ที่รวมสองอ่าวนี้ เป็นอ่าวเดียวกัน ก็เพราะว่าอ่าวนี้ เดิมชื่อว่า อ่าวช่อ แต่ต่อมามีเรียกกันหลายชื่อ ทำให้เกิดความสับสน กับนักท่องเที่ยว พอสมควร ถ้าดูจริงๆ แล้ว อ่าวช่อ และอ่าวทานตะวัน ก็มีโค้งอ่าวที่ติดต่อกัน แต่เรียกชื่อกันตามรีสอร์ท ที่ตั้งอยู่ ในแต่ละตำแหน่งเท่านั้น โดยรวมอ่าวช่อ เป็นอ่าวที่เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน ผู้คน ไม่พลุกพล่าน หาดทรายขาว และสวยงาม ลงตัวดี กับวันพักผ่อนของคุณ
อ่าวทับทิม อ่าวเล็กๆ ที่มีพื้นที่ติดกันหรือ จะเรียกว่าเป็นพื้นที่เดียวกับอ่าวพุทราก็ว่าได้ รวมๆ แล้ว ก็เป็นอ่าวเล็กๆ ที่เงียบสงบน่าพัก สำหรับหาดทราย และสถานที่เล่นน้ำทะเลแล้ว ที่ อ่าวทับทิม เรียกว่าสะอาดพอสมควร ที่ อ่าวทับทิม เป็นอีกอ่าวหนึ่งที่น่าพักผ่อนในวันหยุด
อ่าวแสงเทียน เป็นอ่าวที่เงียบสงบ ผู้คนไม่ค่อยพลุกพล่าน นักท่องเที่ยวที่มาพักอ่าวนี้ โดยมาก เน้นความสงบ เป็นส่วนใหญ่ หาดทรายของ อ่าวแสงเทียน ถ้าจะว่าไปแล้ว สะอาดกว่าด้านหัวเกาะเสียด้วยซ้ำไป ก็เป็นเพราะนักท่องเที่ยวที่มาพักที่หาดนี้ น้อยกว่า ทำให้ธรรมชาติบริเวณนี้ ยังคงรักษาความสวยงาม ตามธรรมชาติได้ ถ้าคุณเป็นนักท่องเที่ยว ประเภทกินลมชมวิว นอนนับดาวแล้วละก็ อ่าวแสงเทียน เป็นอีกอ่าวหนึ่ง ที่คุณไม่ควรพลาด ที่จะมาพักผ่อน
อ่าวหวาย ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า ยิ่งไกลจากหัวเกาะ และนักท่องเที่ยวน้อยลงเท่าไหร่ ธรรมชาติ ก็ยังคงความสวยงามแบบเดิมไว้มากเท่านั้น อ่าวหวาย ก็เป็นอีกอ่าวหนึ่ง ยังคงความสวยงามแบบเดิมไว้ ที่ อ่าวหวาย เหมาะกับนักท่องเที่ยว ที่รักความสงบ และเป็นส่วนตัว ที่ อ่าวหวาย มีรีสอร์ทเพียงแห่งเดียว ดูแล้วค่อนข้างจะเป็นส่วนตัว และสงบพอสมควร เป็นอีกอ่าวหนึ่ง ที่ขอแนะนำ
อ่าวกิ่วหน้านอก อ่าวที่เหมาะสำหรับผู้ต้องการสัมผัสธรรมชาติ อย่างแท้จริง ที่นี่ หาดทรายขาวเสียจนน่าอิจฉา จากจุดนี้สามารถมองเห็นเกาะหินขาวได้อย่างชัดเจนที่ อ่าวกิ่วหน้านอก นี้ เป็นจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้ โดยใช้เวลาเดินไม่นาน ระยะทางประมาณ 100 เมตร ก็จะถึง อ่าวกิ่วหน้าใน ซึ่งเป็นจุดชมวิว ที่หลายคนมองข้ามไป เนื่องจากด้านอ่าวกิ่วหน้าใน เป็นแนวโขดหิน สถานที่ท่องเที่ยว จึงมีไม่มาก แต่เหมาะจะเป็นจุดชมวิว ดื่มกินบรรยากาศ ของ เสม็ด ที่ดีอีกแห่งหนึ่ง
อ่าวกะรัง อ่าวที่สงบเงียบ และไม่มีผู้คนพลุกพล่านอย่างแท้จริง อ่าวนี้มีหาดทรายเล็กๆ พอที่จะลงเล่นน้ำ และชมประการังได้ จุดชมวิวบริเวณแหลมกุด ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาด ถ้าคุณมาท่องเที่ยวที่ เกาะเสม็ด โดยเจาะจงมาพักที่อ่าวกะรัง (ปะการัง แค้มปิ้ง) ในช่วงเดือน พ.ย. – ธ.ค. คุณจะได้พบกับนักตกปลา มาที่นี่กันมากสักหน่อย เพราะว่าช่วงนั้น จะเป็นช่วงที่ปลาอินทรีย์ จะมีมาก บริเวณอ่าวกะรัง โดยเฉพาะหมายตกปลาที่คุ้นหู นักตกปลากันทั่วไปคือ ร่องจันทร์ และสันฉลาม ซึ่งเป็นเกาะหินเล็กๆ ที่สามารถมองเห็นจากอ่าวกะรังได้
อ่าวกิ่วหน้าใน อ่าวนี้อยู่ตรงข้ามกับอ่าวกิ่วหน้านอก มีความเงียบสงบและสามารถที่จะชมพระอาทิตย์ตกได้ที่อ่าวนี้และยังสามารถเล่นน้ำชมประการังได้ด้วย
อ่าวน้อยหน่า บริเวณ อ่าวน้อยหน่า นี้ เหมาะสำหรับผู้ที่รักความเงียบสงบ และเป็นส่วนตัว ถึง อ่าวน้อยหน่า จะอยู่ใกล้หาดทรายแก้ว แต่ความพลุกพล่านเรียกว่าต่างกัน เหมือนอยู่คนละเกาะ ใครที่ชอบความเงียบสงบ อ่านหนังสือ อาบแสงแดดเคล้าน้ำทะเล บริเวณนี้มีหาดทรายที่สะอาด พอที่จะเล่นน้ำได้อย่างสบายใจ
อ่าวลูกโยน เป็นอีกอ่าวหนึ่งที่มีหาดทรายให้เล่นน้ำ ถึงไม่กว้างมากนัก ที่หาดทรายบริเวณ อ่าวลูกโยน ค่อนข้างจะสงบเงียบ ไม่พลุกพล่าน นักท่องเที่ยวบางกลุ่มเลยดูจะชอบมาพักที่ อ่าวลูกโยน กัน ถ้าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบความสงบ อ่าวลูกโยน ก็เป็นอีกแห่งหนึ่งที่ขอแนะนำ
อ่าวไผ่ มีชายหาด ที่ติดกับหาดทรายแก้ว คั่นกันแค่โขดหิน ไม่ใหญ่นัก นักท่องเที่ยวส่วนมาก จะเหมาเดินเที่ยว หาดทรายแก้ว ไล่ไปจนถึง อ่าวไผ่ แล้วเดินย้อนกลับมา ใช้เวลาไม่มากนัก ที่ อ่าวไผ่ บริเวณโขดหิน มีวิวที่สวยงาม เหมาะที่จะอาบแดด ถ่ายรูป ฯลฯ หาดทรายบริเวณ อ่าวไผ่ ก็เป็นอีกแห่งหนึ่ง ที่จะเห็นนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติ มานอนอาบแดดกัน ถ้าหาที่ว่างที่หาดทรายแก้วไม่ได้ อ่าวไผ่ นี่แหละ บรรยากาศคล้ายๆ กัน ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ สำหรับนักท่องเที่ยว อย่างเราๆ ข้อแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว ที่มาเล่นน้ำที่ อ่าวไผ่ จะมีจุดน้ำวนอยู่ ไม่ควรลงเล่นน้ำที่บริเวณนั้น (สังเกตได้จากธงสีแดง ที่ปักอยู่)
อ่าวนวล อ่าวเล็กๆ ที่หลายคนมองข้าม แต่สำหรับนักท่องเที่ยว ที่รักความสงบเงียบ อย่างแท้จริงแล้ว อ่าวนวล เป็นอีกอ่าวหนึ่งที่ขอแนะนำ มีนักท่องเที่ยวไม่มากนัก ที่ชอบมาพักผ่อนที่อ่าวนี้ แต่ถ้าใครมาพักผ่อนที่อ่าวนี้ ก็บอกได้เลยว่า เป็นนักท่องเที่ยวที่มากินลม ชมความเงียบโดยแท้ สิ่งอำนวยความสะดวก ที่อ่าวนวล มีไม่มาก บังกาโล มีเพียงแห่งเดียว ที่เปิดรองรับนักท่องเที่ยว
ขอขอบคุณเนื้อหาและรูปภาพจากเวบไซต์ต่าง ๆ
แหล่งที่มาบางส่วน : https://www.thai-tour.com
รูปภาพบางส่วนได้นำมาจากเวบไซต์ : https:// www.siamfreestyle.com