ทริปเดินทาง

รีวิว :: ทริปหูหยางหลิน(胡杨林)-กานซู่และมองโกเลียใน(甘肃省和内蒙古)(11-19/10/2023)

胡杨林 หูหยางหลิน หรือ ต้นหูหยางเป็นต้นไม้ที่มีอายุยืนเฉลี่ย มากที่สุด พันธุ์หนึ่งของโลก โดยมีคำเรียกง่ายๆ สั้นๆ ว่าต้นไม้ 3000 ปี เติบโต 1000 ปี ยืนต้น 1000 ปี และ ใช้เวลาตายอีก 1000 ปี นั่นเอง โดยต้นหูหยางหลินของทั้งโลก จะตั้งอยู่ที่จีน ประมาณ 80% เข้าไปแล้ว โดยจะอยู่ที่ พื้นที่มองโกเลียใน และ ซินเจียงนั้นเอง แต่สองสถานที่นี้จะมีความแตกต่างกันในด้านกายภาพ เพราะ ป่าหูหยางที่ผมจะไปจะเป็นป่าที่ขึ้นบนพื้นที่แห้งแล้งโครตๆ บนพื้นที่ทะเลทรายโกบี นั้นเอง ถ้าใครยังจำเรื่อง HERO ของจางอี้โหมว ได้ก็คือสถานที่ตรงนั้น นั่นเองครับ


โดยการเดินทางของเราเริ่มต้นที่ เมืองซีอาน แห่งมณฑลส่านซี เหตุผลเพราะหาตั๋วไปกลับได้ในราคา 4500 บาท พร้อมน้ำหนักนั่นเอง แต่สายการบินสิงโตนามสมมุติ ก็เล่นเราเข้าให้ อยู่ๆ มายกเลิกเที่ยวบินขากลับ และ แทบไม่มีเที่ยวบิน จาก ซีอาน กลับ มากรุงเทพเลย เพราะเที่ยวบินยกเลิกหมด (เป็นช่วงมีเด็กดีสักคนไปไล่ยิงคนที่สยามเซ็นทรัลเวิล พอดีครับ) เลยช่างมัน วีซ่าทำแล้ว ขากลับเราก็จะกลับทางเฉิงตูละวะ คนไปด้วยทุกคนก็รับสภาพได้แล้ว เราก็เลยจัดปายยยยยยย (เนื้อหาอาจจะมั่วเล็กน้อย เพราะดองไว้เกือบปีแล้วค่อยมาเขียนลง)

อะอะอะ ต่อมา เมื่อถึง ซีอานเราก็พัก ครึ่งคืนเตรียมตัวนั่งรถไฟข้ามมณฑล จาก ส่านซี ไปยัง กานซู่ จุดหมายแรกที่เราจะท่องเที่ยวก็คือ ภูเขาสายรุ้งจางเย่ นั่นเองครับ


张掖七彩丹霞 หรือที่คนไทยเรียกกันว่า “ภูเขาสายรุ้งจางเย่” ส่วนตัวเรียกว่า “ภูเขาโฟโต้ช็อป” ซึ่งมีสีสันงดงาม ประมาณ 6-7 สี จึงเรียกว่าภูเขาสายรุ้งนั่นเอง ส่วนตัวมาบ่อยมากๆ จนพอรู้ว่าต้องมาช่วงไหนถึงสวย หลายๆ ท่านยังไม่เคยมาเมืองจางเย่ เลย เมืองจางเย่ มีที่เที่ยวอีกเยอะ ลองค้นหาในเว็บนี้ดูละกันนะครับ คนเขียนทำมาดีมากๆ จริงๆ นะครับ อะมาต่อเรื่องจางเย่ มันจะสวยตอนไหน มาสรุปเลยละกันครับ

  1. ควรไปตอนเช้าตรู่ หรือ ตอนเย็นๆ ก่อนค่ำ คือไม่มีแสงแดดจัดๆ หรือ ช่วงอากาศเย็นๆ ยิ่งฝนตกแรงๆ ยิ่งดี เพราะพื้นดินสีจะออกมาเยอะมากๆ
  2. ห้ามไป หรือ ไม่ควรไปตอนเที่ยง ก่อนเที่ยง บ่าย เพราะจะเจอแค่ 2-3 สี สีโทนสีแดง แค่นั้น ช่วงเดือน 7-8 ไปได้แต่ จะเจอไม่กี่สี เพราะแถบนั้นมืดตอน สี่ห้าทุ่ม
  3. ช่วงเดือน 7-8 เปิดให้เข้าตอนกลางคืน มีการปล่อยบอลลูน สวยงามไปอีกแบบ
  4. สุดท้ายให้รีบๆ ไปยิ่งนานยิ่งเละ นะครับ
ใกล้มืดแล้ว

ไม่ต้องแต่งภาพ ก็ดูมีสีเป็นชั้นๆ ครับ เสียดายฝนไม่ตก ขณะที่ไปเป็นช่วง 16.50 น.

ด้านย้อนแสง กับ ตามแสง

รถบัสยังดูน่ารักเลยอะ
บริเวณนี้แสงแดดยังลงรุนแรง

ภาพซ้ายมีชื่อว่า พระราชวังโปตาลา ใช้จินตนาการเยอะนิดนึงครับ

อะภาพสุดท้ายก่อนเปลี่ยนที่
อีกสักภาพ มุมนี้สวยดีครับ ต่อไปจะมีลานแสดง

เป้าหมายที่ ต่อไปของการเดินทางครั้งนี้ก็คือ เมืองอาลาสั้น(阿拉善) เป็นภาษามองโกลว่า ดินแดนแห่งสีสันที่งดงาม (มีจุดขายคือทะเลทรายปาตันจี๋หลิน) ซึ่งเราจะเดินทางออกจากกานซู่ ผ่านหนิงเซี่ยนิดๆ เข้าสู่มองโกเลียใน ด้านล่างๆ ซึ่งเราจะเข้าไปยัง ทะเลทรายปาตันจี๋หลิน(巴丹吉林沙漠) ทะเลทรายที่สวยที่สุดของประเทศจีน(เขาชมพื้นที่ตัวเอง) จาก จางเย่ นั่งรถมาประมาณ 3ชั่วโมงครึ่ง ก็จะถึง อาลาสั้น และ เราก็จะเปลี่ยนเป็นรถ 4WD ไว้ลุยทะเลทรายกันครับ โดยปลายทางของเราจะเป็นโอเอซิส ที่อยู่ใจกลางทะเลทราย ต้องนั่งรถเข้าไปในทะเลทรายประมาณ 60-80 กม. คนเมารถมีอ้วกง่ายๆ โดยสรุปสั้นๆ เป็นสถานที่ไปเลยนะครับ เพราะนานมาก ลืมไปเยอะมากมาย แล้ว และกลางทะเลทรายจะมีบ้านพักไว้ให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อน ปกติมาตรงนี้จะต้องใช้เวลา 2 วัน 1 คืน ครับ

  1. หงไห่จื่อ(红海子)ทะเลสาบมินิฮาร์ทสีแดง ออกแนวรูปหัวใจ มีหลายจุดเหมือนกัน หน้าหนาวไม่ควรมา จะแห้งมากๆ ไม่มีน้ำ
  2. ทะเลสาบปาตัน(巴丹湖)ทะเลสาบเล็กใหญ่หลายๆ แห่งบริเวณพื้นที่หน้าทางเข้าทะเลทราย จะมีรูปปั้นเจงกีสข่าน ไว้เป็นจุดสังเกต
  3. ทะเลสาบคู่/ซวงไห่จื่อ(双海子)ทะเลสาบคู่ อยู่ใกล้ๆ โอเอซิส ด้านในสุดของทะเลทราย
  4. วัดปาตันจี๋หลิน(巴丹吉林庙)ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของทะเลทรายนั่นเอง
  5. เอเวอเรสกลางทะเลทราย ก็คือเกลียวคลื่นทะเลทราย เป็นส่วนหนึ่งของภูเขาบนทะเลทราย สูงมากจนคนให้ชื่อว่า เอเวอร์เรส!
ทะเลสาบปาตัน
บริเวณทางเข้าที่เรียกว่าทะเลสาบปาตัน นั้นมีทะเลสาบเล็กๆ น้อยๆ เต็มไปหมด
จุดแลนมาร์ค
หงไห่จื่อ ทะเลสาบสีแดงในวันที่น้ำแทบไม่เหลือ
ไกลๆ สีไม่ค่อยออกแดงๆ แล้ว
อีกหลายๆ มุม
อีกนิด
มุ่งหน้าต่อไป
แนวดนตรีแห่งทะเลทราย

จุดเอเวอเรสแห่งทะเลทรายปาตันจี๋หลิน

วัดปาตันจี๋หลิน แสดงถึงจุดศูนย์กลางของทะเลทราย

บริเวณนี้มีแค้มที่พัก ที่มีห้องน้ำในตัวให้บริการนะครับ เพียงแต่ราคาจะแพงหน่อย

สองทะเลสาบในยามเช้า
ทะเลสาบคู่
ห้ามไปตอนสาย แดดจะแรงมาก

แล้วหลังจากที่พักในทะเลทรายไป 1 คืน เราก็กลับออกมาจากทะเลทรายเพื่อพักในเมืองจางเย่ อีกหนึ่งคืน เมืองเล็กๆ แต่มีอะไรให้ดูหลายอย่าง ในช่วงกลางคืนเราจะมีจุดให้เดินชมไม่เยอะ เช่น ถนนคนเดิน หรือ ป้อมประตูเมืองเก่า

เกมท้องถิ่นในเมืองเก่า
สวนสนุกเล็กๆ ในตรอกเมืองเก่า
ถนนคนเดิน
ป้อมเมืองเก่า

ผิงซานหูต้าเสียกู่ และเมืองจางเย่ ยังมีสถานที่สวยงามนอกเหนือจาก ภูเขาสายรุ้ง และ ปิงโกวตันเสีย ซึ่งก็คือ แกรนแคนยอนผิงซานหู(平山湖大峡谷) ซึ่งมีระยะทาง และ ขนาดใหญ่มากๆๆ ซึ่งควรใช้เวลาในการเดินทางมาท่องเที่ยว 1 วันเต็ม แต่พวกเรามีเวลาแค่ ครึ่งวัน บอกเลยว่าเที่ยวไม่ครบครับ

แนวเขาของแคนยอนแห่งนี้
ภาพจากจุดชมวิว
แนวเทือกเขา
ด้านตรงข้ามจากจุดชมวิว
สามสหาย
ภาพมุมสูง
สามารถมองเห็นแนวเทือกเขาฉีเหลียนซาน

ต่อไปจะเป็นจุดสุดท้ายของการเดินทาง ซึ่งกินอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลมากๆ ซึ่งก็คือ พื้นที่ป่าหูหยางหลิน ที่มีคำกล่าวว่า เป็นต้นไม้ที่อายุยืนมากที่สุดในโลก โดยเส้นทางการเดินทาง เราจะนั่งรถ จากจางเย่ ไปยังบริเวณชายแดนจีน เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน เมือง “เอ่อจี่น่าฉี-额济纳旗” ซึ่งบริเวณนี้จะมี จุดท่องเที่ยวใหญ่ๆ 3 จุดด้วยกัน

ซากเมืองดำ
ซากก่อสร้างเก่าๆ
ป้อมเมือง

ช่วงก่อนฟ้ามืดสัก 2 ชั่วโมง

ทนกว่าต้นไม้ ก็คนเที่ยวนี่ละครับ

หลายๆ ต้นเป็นต้นหูหยางที่อายุเกิน 2000 ปี และยืนต้นตาย ซึ่งทางอุทยานได้นำรั้วไปล้อมรอบ แต่ก็โดนนักท่องเที่ยวงัดแงะออก เพื่อไปปีนเล่น

ทุ่งแห่งความแห้งแล้ง

ช่วงก่อนค่ำ ซึ่งจะมีระยะเวลาประมาณ 30 นาทีเท่านั้นเอง


ยามเช้าตรู่ ที่สะพานที่ 1
ใครขี้เกียจเดิน จะมีบริการขี่อูฐ
สีของใบไม้ที่เปลี่ยน ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของฤดูกาลแล้ว
บริเวณสะพานที่ 2-3
ไปเรื่อยๆ
บริเวณสะพานที่ 3
สะพานที่ 4
จุดรกร้างบริเวณสะพานที่ 4 และ 5

ภาพชุดด้านหลังนี้คือ ย้อนกลับมาสะพานที่ 2 ช่วงก่อนพระอาทิตย์ตก แต่เนื่องด้วยเป็นวันสุดท้ายของฤดู ก่อนที่หิมะจะตก ท้องฟ้าเลยเปลี่ยนเป็นสีออกเหลืองๆ


วิวจากมุมบน
ป่าหูหยางบนผืนน้ำ
รอบๆ เขตป่าจะมีทะเลสาบ
สวยงาม

บริเวณนี้จะเป็นป่าหูหยางหลิน ที่ต้นไม้ยังมีขนาดเล็ก ลำต้นยังเทียบกับที่เอ๋อจี่น่า ไม่ได้นะครับ

บรรยากาศรอบๆ
ด้านหลังป่าคือเจดีย์ หรือ วัดนั่นเอง
…..

ในส่วนของขากลับนั้น ได้นั่งรถไฟจาก “เมืองเจียอวี่กวน” ยิงยาวไปถึงเฉิงตูร่วมเกือบ 2000 กม. อ้อมไปมาร่วม 4 มณฑล ภายในเวลา 15 ชม. เนื่องจากโดนสายการบินหักหลัง ต้องเปลี่ยนการเดินทางขากลับ ครับ!


 

Exit mobile version