胡杨林 หูหยางหลิน หรือ ต้นหูหยางเป็นต้นไม้ที่มีอายุยืนเฉลี่ย มากที่สุด พันธุ์หนึ่งของโลก โดยมีคำเรียกง่ายๆ สั้นๆ ว่าต้นไม้ 3000 ปี เติบโต 1000 ปี ยืนต้น 1000 ปี และ ใช้เวลาตายอีก 1000 ปี นั่นเอง โดยต้นหูหยางหลินของทั้งโลก จะตั้งอยู่ที่จีน ประมาณ 80% เข้าไปแล้ว โดยจะอยู่ที่ พื้นที่มองโกเลียใน และ ซินเจียงนั้นเอง แต่สองสถานที่นี้จะมีความแตกต่างกันในด้านกายภาพ เพราะ ป่าหูหยางที่ผมจะไปจะเป็นป่าที่ขึ้นบนพื้นที่แห้งแล้งโครตๆ บนพื้นที่ทะเลทรายโกบี นั้นเอง ถ้าใครยังจำเรื่อง HERO ของจางอี้โหมว ได้ก็คือสถานที่ตรงนั้น นั่นเองครับ
โดยการเดินทางของเราเริ่มต้นที่ เมืองซีอาน แห่งมณฑลส่านซี เหตุผลเพราะหาตั๋วไปกลับได้ในราคา 4500 บาท พร้อมน้ำหนักนั่นเอง แต่สายการบินสิงโตนามสมมุติ ก็เล่นเราเข้าให้ อยู่ๆ มายกเลิกเที่ยวบินขากลับ และ แทบไม่มีเที่ยวบิน จาก ซีอาน กลับ มากรุงเทพเลย เพราะเที่ยวบินยกเลิกหมด (เป็นช่วงมีเด็กดีสักคนไปไล่ยิงคนที่สยามเซ็นทรัลเวิล พอดีครับ) เลยช่างมัน วีซ่าทำแล้ว ขากลับเราก็จะกลับทางเฉิงตูละวะ คนไปด้วยทุกคนก็รับสภาพได้แล้ว เราก็เลยจัดปายยยยยยย (เนื้อหาอาจจะมั่วเล็กน้อย เพราะดองไว้เกือบปีแล้วค่อยมาเขียนลง)
อะอะอะ ต่อมา เมื่อถึง ซีอานเราก็พัก ครึ่งคืนเตรียมตัวนั่งรถไฟข้ามมณฑล จาก ส่านซี ไปยัง กานซู่ จุดหมายแรกที่เราจะท่องเที่ยวก็คือ ภูเขาสายรุ้งจางเย่ นั่นเองครับ
张掖七彩丹霞 หรือที่คนไทยเรียกกันว่า “ภูเขาสายรุ้งจางเย่” ส่วนตัวเรียกว่า “ภูเขาโฟโต้ช็อป” ซึ่งมีสีสันงดงาม ประมาณ 6-7 สี จึงเรียกว่าภูเขาสายรุ้งนั่นเอง ส่วนตัวมาบ่อยมากๆ จนพอรู้ว่าต้องมาช่วงไหนถึงสวย หลายๆ ท่านยังไม่เคยมาเมืองจางเย่ เลย เมืองจางเย่ มีที่เที่ยวอีกเยอะ ลองค้นหาในเว็บนี้ดูละกันนะครับ คนเขียนทำมาดีมากๆ จริงๆ นะครับ อะมาต่อเรื่องจางเย่ มันจะสวยตอนไหน มาสรุปเลยละกันครับ
- ควรไปตอนเช้าตรู่ หรือ ตอนเย็นๆ ก่อนค่ำ คือไม่มีแสงแดดจัดๆ หรือ ช่วงอากาศเย็นๆ ยิ่งฝนตกแรงๆ ยิ่งดี เพราะพื้นดินสีจะออกมาเยอะมากๆ
- ห้ามไป หรือ ไม่ควรไปตอนเที่ยง ก่อนเที่ยง บ่าย เพราะจะเจอแค่ 2-3 สี สีโทนสีแดง แค่นั้น ช่วงเดือน 7-8 ไปได้แต่ จะเจอไม่กี่สี เพราะแถบนั้นมืดตอน สี่ห้าทุ่ม
- ช่วงเดือน 7-8 เปิดให้เข้าตอนกลางคืน มีการปล่อยบอลลูน สวยงามไปอีกแบบ
- สุดท้ายให้รีบๆ ไปยิ่งนานยิ่งเละ นะครับ
ไม่ต้องแต่งภาพ ก็ดูมีสีเป็นชั้นๆ ครับ เสียดายฝนไม่ตก ขณะที่ไปเป็นช่วง 16.50 น.
ด้านย้อนแสง กับ ตามแสง
ภาพซ้ายมีชื่อว่า พระราชวังโปตาลา ใช้จินตนาการเยอะนิดนึงครับ
เป้าหมายที่ ต่อไปของการเดินทางครั้งนี้ก็คือ เมืองอาลาสั้น(阿拉善) เป็นภาษามองโกลว่า ดินแดนแห่งสีสันที่งดงาม (มีจุดขายคือทะเลทรายปาตันจี๋หลิน) ซึ่งเราจะเดินทางออกจากกานซู่ ผ่านหนิงเซี่ยนิดๆ เข้าสู่มองโกเลียใน ด้านล่างๆ ซึ่งเราจะเข้าไปยัง ทะเลทรายปาตันจี๋หลิน(巴丹吉林沙漠) ทะเลทรายที่สวยที่สุดของประเทศจีน(เขาชมพื้นที่ตัวเอง) จาก จางเย่ นั่งรถมาประมาณ 3ชั่วโมงครึ่ง ก็จะถึง อาลาสั้น และ เราก็จะเปลี่ยนเป็นรถ 4WD ไว้ลุยทะเลทรายกันครับ โดยปลายทางของเราจะเป็นโอเอซิส ที่อยู่ใจกลางทะเลทราย ต้องนั่งรถเข้าไปในทะเลทรายประมาณ 60-80 กม. คนเมารถมีอ้วกง่ายๆ โดยสรุปสั้นๆ เป็นสถานที่ไปเลยนะครับ เพราะนานมาก ลืมไปเยอะมากมาย แล้ว และกลางทะเลทรายจะมีบ้านพักไว้ให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อน ปกติมาตรงนี้จะต้องใช้เวลา 2 วัน 1 คืน ครับ
- หงไห่จื่อ(红海子)ทะเลสาบมินิฮาร์ทสีแดง ออกแนวรูปหัวใจ มีหลายจุดเหมือนกัน หน้าหนาวไม่ควรมา จะแห้งมากๆ ไม่มีน้ำ
- ทะเลสาบปาตัน(巴丹湖)ทะเลสาบเล็กใหญ่หลายๆ แห่งบริเวณพื้นที่หน้าทางเข้าทะเลทราย จะมีรูปปั้นเจงกีสข่าน ไว้เป็นจุดสังเกต
- ทะเลสาบคู่/ซวงไห่จื่อ(双海子)ทะเลสาบคู่ อยู่ใกล้ๆ โอเอซิส ด้านในสุดของทะเลทราย
- วัดปาตันจี๋หลิน(巴丹吉林庙)ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของทะเลทรายนั่นเอง
- เอเวอเรสกลางทะเลทราย ก็คือเกลียวคลื่นทะเลทราย เป็นส่วนหนึ่งของภูเขาบนทะเลทราย สูงมากจนคนให้ชื่อว่า เอเวอร์เรส!
จุดเอเวอเรสแห่งทะเลทรายปาตันจี๋หลิน
บริเวณนี้มีแค้มที่พัก ที่มีห้องน้ำในตัวให้บริการนะครับ เพียงแต่ราคาจะแพงหน่อย
แล้วหลังจากที่พักในทะเลทรายไป 1 คืน เราก็กลับออกมาจากทะเลทรายเพื่อพักในเมืองจางเย่ อีกหนึ่งคืน เมืองเล็กๆ แต่มีอะไรให้ดูหลายอย่าง ในช่วงกลางคืนเราจะมีจุดให้เดินชมไม่เยอะ เช่น ถนนคนเดิน หรือ ป้อมประตูเมืองเก่า
ผิงซานหูต้าเสียกู่ และเมืองจางเย่ ยังมีสถานที่สวยงามนอกเหนือจาก ภูเขาสายรุ้ง และ ปิงโกวตันเสีย ซึ่งก็คือ แกรนแคนยอนผิงซานหู(平山湖大峡谷) ซึ่งมีระยะทาง และ ขนาดใหญ่มากๆๆ ซึ่งควรใช้เวลาในการเดินทางมาท่องเที่ยว 1 วันเต็ม แต่พวกเรามีเวลาแค่ ครึ่งวัน บอกเลยว่าเที่ยวไม่ครบครับ
ต่อไปจะเป็นจุดสุดท้ายของการเดินทาง ซึ่งกินอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลมากๆ ซึ่งก็คือ พื้นที่ป่าหูหยางหลิน ที่มีคำกล่าวว่า เป็นต้นไม้ที่อายุยืนมากที่สุดในโลก โดยเส้นทางการเดินทาง เราจะนั่งรถ จากจางเย่ ไปยังบริเวณชายแดนจีน เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน เมือง “เอ่อจี่น่าฉี-额济纳旗” ซึ่งบริเวณนี้จะมี จุดท่องเที่ยวใหญ่ๆ 3 จุดด้วยกัน
- พื้นที่แรกก็คือ “ป่าผี-怪树林” หรือ “ลั่วสุ่ยหูหยางหลิน-弱水胡杨林” ซึ่งอยู่ ฝั่งตรงข้ามของ “เมืองโบราณเฮยสุ่ย-黑水古城” ซึ่งเป็นเมืองในช่วง คศ.300 ของอาณาจักรซีเซี่ยโบราณ โดยควรต้องมาตอนเย็นๆ เพราะพื้นที่สวนมากจะเป็น ทะเลทราย อากาศร้อนมากๆ บรรยากาศป่าปีจะสวย ช่วงก่อนพระอาทิตย์ตก 30 นาทีเท่านั้นเอง
ช่วงก่อนฟ้ามืดสัก 2 ชั่วโมง
หลายๆ ต้นเป็นต้นหูหยางที่อายุเกิน 2000 ปี และยืนต้นตาย ซึ่งทางอุทยานได้นำรั้วไปล้อมรอบ แต่ก็โดนนักท่องเที่ยวงัดแงะออก เพื่อไปปีนเล่น
ช่วงก่อนค่ำ ซึ่งจะมีระยะเวลาประมาณ 30 นาทีเท่านั้นเอง
- พื้นที่ ที่สองก็คือ ป่าอุทยานหลังตัวเมือง “เอ๋อจี่น่าฉี-หรือ เอ๋อจี่น่า-额济纳旗” ซึ่งเมืองนี้ ช่วงที่พีคที่สุดคือ ช่วง 1-15 ตุลาคมของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงที่ใบไม้ของต้นหูหยางหลินจะเปลี่ยนสี ไปเป็นสีเหลือง ของทุกปี นักท่องเที่ยวจะล้นตัวเมืองกันเลยทีเดียว โดยอุทยานแห่งนี้จะเรียกกันสั้นๆ ว่า 8 สะพาน (ปาเต้าเฉียว-八道桥) ซึ่งหน้าอุทยานจะเรียกว่า สะพานที่ 1 (อีเต้าเฉียว) โดยจุดที่สามารถขึ้นรถเวียนรอบอุทยาน นั้นจะมี สะพานที่ 2,4,7,8 อุทยานมีขนาดใหญ่มากๆๆๆๆ ถ้าเดินถ่ายรูปด้วย 1 วันเต็มๆ เดินเองล่อไป 20 กม ได้ แต่ถ้าใครไม่เน้นอะไรมาก ขึ้นรถเที่ยวๆ ก็พอครับ สะพานที่ 8 ไม่ต้องไป เป็นสวนสนุกทะเลทราย ถ้าต้องการฉากมีพื้นน้ำ อยู่แค่สะพานที่ 2 พอครับ
ภาพชุดด้านหลังนี้คือ ย้อนกลับมาสะพานที่ 2 ช่วงก่อนพระอาทิตย์ตก แต่เนื่องด้วยเป็นวันสุดท้ายของฤดู ก่อนที่หิมะจะตก ท้องฟ้าเลยเปลี่ยนเป็นสีออกเหลืองๆ
- จุดสุดท้ายก่อนจะจบทริป ก็จะเป็น “ป่าหูหยางหลิน แห่ง ทะเลทรายจินถ่า-金塔沙漠胡杨林” เป็นจุดที่ทำการทดลองปลูกต้นหูหยางหลิน โดยฝีมือมนุษย์ บริเวณนี้จะเป็นต้นหูหยางหลินวัยรุ่น อายุเอ๊าะๆ ทั้งนั้นเลย สถานที่ตั้งอยู่ที่เมืองจินถ่า ห่างจากตัวเมืองเจียอวี่กวน ประมาณ 100 กม. แต่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยรู้กัน รถอุทยานจะเป็นรถไฟน่ารักๆ โดยวิธีเที่ยว นั่งไปลงจุดสุดท้ายเลย เพราะวัดจินถ่า กับ ป่าหูหยางหลินบนผืนน้ำแสนสวยนั้นมีพื้นที่ติดกันครับ
บริเวณนี้จะเป็นป่าหูหยางหลิน ที่ต้นไม้ยังมีขนาดเล็ก ลำต้นยังเทียบกับที่เอ๋อจี่น่า ไม่ได้นะครับ
ในส่วนของขากลับนั้น ได้นั่งรถไฟจาก “เมืองเจียอวี่กวน” ยิงยาวไปถึงเฉิงตูร่วมเกือบ 2000 กม. อ้อมไปมาร่วม 4 มณฑล ภายในเวลา 15 ชม. เนื่องจากโดนสายการบินหักหลัง ต้องเปลี่ยนการเดินทางขากลับ ครับ!