中原 จงหยวน หรือ ภาคกลางของประเทศจีนเป็นคำเรียกที่มีมาแต่โบราณตั้งแต่สมัย รัฐฉินรวมประเทศแล้ว เพราะสมัยนั้นรัฐฉินถือเป็นศูนย์กลางประเทศจีน จะแสดงให้เห็นว่าพื้นที่ส่วนนี้เป็นราชธานีมาหลายยุคหลายสมัยเลยก็ว่าได้ เพราะมีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างมาก
ซึ่งตอนแรกทริปของเราจะไปเยือนน้ำตกหูโค่ว(壶口瀑布) แต่อนิจจา ปีนี้น้ำปากแม่น้ำแข็งตัวเป็นน้ำแข็งทำให้น้ำปากแม่น้ำทะลัก ปิด 1 เดือนในหน้าแล้ง ยอมใจไปเลย ทริปนี้เลยต้องเปลี่ยนเป้าหมายไปเป็นหัวซานน้อย ไปเลย
เอ้างั้นเรามาเริ่มเรื่องกันเลยนะครับ พวกเรา 8 ชีวิต (ไปแบบชิวๆ) ตามใจเหล่าอาเฮีย ที่จัดกันแบบสนุกๆ ไม่กลัวลำบาก ไปกันโดยสายการบินไทยแอร์เอเซีย(ไม่ได้ค่าโฆษณานะครับ) พอเราถึงซีอานในช่วงบ่ายก็หารถที่เรานัดไว้เพื่อไปส่งบริเวณที่พัก ใกล้ๆ สถานีรถไฟความไวสูงนะครับ
โดยจุดหมายของวันนี้ก็ในตัวเมืองซีอานนี่ละครับ ไม่แวะ หอกลอง หอระฆังแล้ว เพราะเบื่อแล้ว ก็เลยจะไปปีนกำแพงเมือง แต่ด้วยการจราจรที่ติดขัด(ไปรถไฟฟ้านี่หว่า) พอถึงก็ปิดและ ก็เลยเปลี่ยนที่ไปจุดจัดงานเฉลิมฉลอง “ต้าเยี่ยนถ่า-大雁塔” หอห่านยักษ์ แต่คนก็เยอะมากๆ นะครับ
สักพักก็กลับที่พักและครับ
วันที่ 2 ของการเดินทางเป้าหมายเราซึ่งเปลี่ยนเป็น “หัวซานน้อย” ไปแล้ว ระยะทางอยู่ห่างจากเมืองหัวหยิน(ที่ตั้งหัวซาน) แค่ประมาณ 30 กม.เท่านั้นเองนะครับ ในวันนี้รถมารับเรา ตั้งแต่ 8.00 น. กันเลยทีเดียว ซึ่งสถานที่นี้มีการสร้างจุดชมวิว แปลกๆ ไว้เรียกลูกค้านั่นเองครับ
บริเวณจุดแรก จุดขึ้นกระเช้า ปล.ใครจะเดินขึ้นก็ได้นะครับ
โดยหัวซานน้อย ค่าบัตรยังไม่ค่อยนิ่งเท่าไหร่นะครับ ช่วงที่ไปรวมทั้งค่ากระเช้า ค่ารถ ค่าเข้า ประมาณ 200 หยวน ซึ่งงวดนี้ แอดมินก็ไม่ได้พาเข้าไปจนสุด เพราะต้องเก็บแรงไว้ในวันต่อไปครับ
โดยเขาหัวซานน้อยนั้น มีชื่อเสียงเรื่องความสวยงามในด้านใบไม้แดงอยู่พอตัวทีเดียวเลยนะครับ และทางเดินอาจต้องเดินกันถึง 10 กม.กันเลย
วันนี้พวกเราเหมาภูเขาลูกนี้ไปทั้งลูกแล้วนะครับ
โดยในวันนี้กว่าจะได้กลับมากินข้าวก็ปาเข้าไป 17.00 น. แล้วครับ สุกี้ร้อนๆเลยจ้า ปล.แอดมินไม่ได้ถ่ายไว้นะ และในวันที่ 3 ของการเดินทางเป้าหมายในวันนี้และสถานที่พักผ่อนก็จะเปลี่ยนเป็นเมืองหัวหยินกันแล้วนะครับ
โดยวันนี้ทั้งวัน เราจะเหมารวมที่บนเขาหัวซาน กว่าจะลงก็ต้องลงตอนเย็นเลย วันนี้เลยทำเวลาครับ ของกินพกไปกินบนภูเขาละกัน เพราะคงไม่มีเวลาไปนั่งพักกินข้าวกันดอกครับ เสียเวลาเที่ยวพวกเราหมด ตั๋วค่าใช้จ่ายวันนี้ทั้งหมดก็ประมาณ 400 หยวนได้เด้อ
โดยเส้นทางท่องเที่ยวโดยขึ้นกระเช้านั้น มีสองจุด คือจุดทิศเหนือ และ ทิศตะวันตก เส้นเที่ยวแบบโปรขั้นเทพคือปีนขึ้นไป เทพทำกัน แต่ว่าพวกเราเป็นมือใหม่ (ปล.แอดมินลองมาแล้วไม่แนะนำครับ)
ฉะนั้นพวกเราก็ขึ้นกระเช้ากันละครับ โดยเลือกขึ้นเส้น ตะวันตก นะครับ รถจะมาส่งให้เราเดินกันรากงอก ประมาณบันได 200 ขั้นได้ เป็นการทดสอบจิตใจขั้นต้น ก็เดินสิเอ้า
นี่คือจุดหมายที่ถึงแล้วนะครับ ถึงจุดขึ้นกระเช้า
โดยกระเช้าด้านทิศตะวันตกของเขาหัวซานนี้ จัดเป็นกระเช้าที่มีราคาแพงมากที่สุดในประเทศจีนเลยนะครับ พอเราขึ้นไป ก็จะไปชมวิวด้านทิศตะวันตกก่อน ถึงค่อยเดินไปลงกระเช้าด้านทิศเหนือกัน
บนยอดเขาบางเวลามีอุณหภูมิ -10 องศา กันเลยนะครับ ช่วงหน้าหนาว ทางเดินเกาะโซ่ รอบๆ หน้าผาจะปิดนะครับ มันจะลื่นๆ มีน้ำแข็ง ก็ได้แต่ชมวิว เสียวๆกันไปนะครับ
ซึ่งยอดทิศใต้ และ ตะวันออกเราไม่ได้ไปกันนะครับ ต้องขอยอมแพ้ ถ้าร่างกายไม่ฟิตจริงๆ เวลาจะไม่ทันเรา เราก็จะมุ่งหน้าไปยังยอดทิศเหนือกันเลยนะครับ โดยเราจะต้องผ่านจุดที่เรียกว่า “ประตูทอง” ไปก่อนนะครับ
ผู้ที่หัวเข่าไม่ดี กรุณาห้ามมาเสี่ยงชีวิตเป็นอันขาด เข่าอาจพังได้
เส้นทางนั้นว่าไม่ไกลก็ไม่ไกลครับ ถ้าเราเพลิดเพลินกับสองข้างทางก็แค่แปปเดียว แต่ถ้าเราตั้งมั่นจะไปให้ถึงจุดหมายละก็ บอกเลยว่าไม่ง่ายในการจะถึงจุดหมายนะครับ มีคนจีนหลายคนเดินมาได้ครึ่งทางก็เดินกลับ เพราะคิดแต่จะไปให้ถึงจุดหมาย
วิวสวยๆ สองข้างทางมีอีกเยอะมากมาย แต่บอกผม แอดมินขี้เกียจเอามาลงหว่ะครับ ฮ่าฮ่าฮ่า
อยากถ่ายอยากมีรูปสวยๆ เยอะๆ อย่ารอเวลาอะไรครับ ไปลุยเลยครับผม
อาเฮียเสื้อเหลืองรูปเยอะมากมายเลยฮะ จอมขโมยซีนชัดๆ!!!
หลังจากเดินจนเหนื่อยหอบ ก็ลงกระเช้าด้านทิศเหนือ แล้วภาพละ ขี้เกียจลงเพิ่มแล้วครับ แล้วก็กลับที่พักว่าแล้วตัดจับตอนนี้ไปเลยนะครับ พิมจนเหนื่อยละ ลาก่อยยย!!! เจอกันตอนหน้า