เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ นึกถึงสุราษฎร์ธานี ถ้าไม่เที่ยวทะเลเราจะไปที่ไหน ที่แรกๆที่ผมนึกออกก็คือสถานที่ที่มีชื่อเรียกหลายชื่อและชื่อเสียงเรียงนามว่า “กุ้ยหลินเมืองไทย” เขื่อนเชี่ยวหลาน เขื่อนรัชชประภา เขาสก โดยภาษาชาวบ้านมักจะติดปากว่า เขาสกกันนะครับ มันเลยเกิดคำถามขึ้นในใจว่าทำไม ไม่บอกว่ากุ้ยหลินคือ “เขาสกเมืองไทย” มั่งละครับ แต่อย่างว่า กุ้ยหลินมันอลังการกว่าจริงๆแหละครับ
อย่างว่าครับเที่ยวเมืองไทยมันสะดวกจริงๆ ทริปนี้เป็นปุ๊ปปั้ปทริป เรารวมตัวคนที่ยังไม่เคยไปเขาสกกันได้ 4 คน(ตัวผมเคยไปเขาสกมาแล้ว 2 รอบ) ก็จัดแจงจองที่พักกันเลย โดยที่พักเราเลือกพักที่ “แพเชี่ยวหลานทัวร์” ราคาในแต่ละปีที่พักที่เขาสกจะปรับขึ้นตลอดนะครับ แต่ที่ แพเชี่ยวหลานทัวร์นี้ถือว่ายังไม่แพง เราเช่าห้องนึงในราคา 4000 บาท อยู่ได้ 4-5 คนพร้อมอาหาร 3 มื้อ ไป 10 คน ฟรี 2 คนนะครับ (เบอร์ติดต่อแพเชี่ยวหลานทัวร์ 0822742910 พี่สาว)
กว่าเราจะมาถึงเขาสก ก็เหนื่อยหอบกับการขับรถตลอดทั้งคืน ทำให้อดดูทะเลหมอกยามเช้าที่บริเวณสันเขื่อนไปอย่างน่าเสียดายค้อตๆ จึงได้แต่แบกร่างกายอันเหนื่อยล้าไปถ่ายภาพบริเวณสันเขื่อน กับ ป้ายเขื่อนรัชชประภาที่ปกติถ้ามาก่อน 6.30 น.จะได้เห็นทะเลหมอกแทบทุกวัน
สองสาวของทริปที่ตอนเพิ่งถึงเขาสกบอกว่าโทรมมากมาย พอให้เข้าหน้ากล้องรู้สึกจะมีแรงทันตาเห็น
และเมื่อรับประทานอาหารเช้ากันเสร็จ เวลาประมาณ 11.00 น.เราก็ได้เตรียมตัวขึ้นเรือโดยสารเหมาลำกันครับ จุดหมายที่พักที่เราจะไปก็คือ แพเชี่ยวหลานทัวร์ ค่าเรือเหมาลำ 2200 บาทครับ แต่ในปีนี้ถ้าจะไปดูถ้ำประการังเขาคิดเพิ่มทั้งหมดอีก 1600 บาท ซึ่งแพงกว่าเมื่อก่อนมากมายเราเลยไม่ไปครับ ปล.ค่าเข้าอุทยานคนละ 40 บาทนะ ค่าจอดรถแยกต่างหากอีก
เป็นภาพทิวทัศน์ด้านซ้าย และ ขวา ก่อนที่จะเดินทางถึงจุดขายของเขาสก หินสามเกลอ ครับ
ก่อนจะเข้าตัวที่พักบนแพเชี่ยวหลานทัวร์ ณ เขาสก เราก็ได้แวะไปจุดแลนด์มาร์คทั้งสองจุดกันก่อนครับก็คือ
-1.หินสามเกลอ
-2.ปลาตะเพียนหางแดง ที่ แพนางไพร แพที่เป็นเขตของอุทยาน
ในช่วงนี้เป็นช่วงที่ปลาตะเพียนมีน้อยถึงน้อยมากๆ แต่ในสายตาของผมก็ยังรู้สึกว่าเยอะอยู่ดีครับ
และเมื่อเรามาถึงแพเชี่ยวหลานทัวร์ ณ เขาสก ก็เป็นเวลาเที่ยงพอดี กิจกรรมยามบ่ายของเราจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากการกินและก็นอน ^3^
และเมื่อเราได้นอนหลับจากความเหนื่อยล้า พวกเราได้ตื่นมาตอน 4 โมงเย็น เป็นช่วงที่รู้สึกว่าเขาสกสวยจริงๆครับ เหมาะแก่การทำกิจกรรมทุกๆ ชนิดเลย
ม้านั่งตัวเดียวกัน แต่ให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนกัน สองหมีน้อยออกแสดงถึงว่าวันนี้จะหมดไปแล้วนะ(มันเกี่ยวกันไหม)
ในตอนกลางคืนถ้าฟ้าเปิด เราเอาเสื่อมาปูด้านนอกและนอนมองดาว พร้อมกับ ทางช้างเผือกที่มักจะปรากฏออกมานั้นเป็นอะไรที่สวยมากๆ เลยครับ แต่ผมไม่ได้ถ่ายมา ไม่ได้เอาขาตั้งกล้องไปน่าเสียดายจริงๆ
ตื่นมาเยี่ยวพอดีครับเลยออกมาเก็บภาพสักภาพ
จากคำบอกเล่าของคนในพื้นที่ บริเวณด้านหน้าอุทยานจะมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งให้ถ่ายภาพก็คือ สะพานแขวน และ ภูเขารูปหัวใจ แต่จุดสำคัญที่สุดห้ามเชื่อ แผนที่ในกูเกิ้ลนะครับ หลงมาเยอะแล้วครับ ทางเข้าจะอยู่ใกล้ๆกับจุดแลกบัตรเลย ห่างจากป้อมยามไป 100 เมตร จะมีซอยเล็กๆ เป็นซอยเข้าวัดข้างพื้นที่กรมทหารนั่นละครับสังเกตดีๆนะ
ความขลัง และ สวยงามอาจลดลงไปบ้างเพราะได้มีการซ่อมแซมสะพานเปลี่ยนจากไม้กลายเป็นเหล็กไปเรียบร้อยแล้วครับ
และแล้วเราก็ต้องจากเขาสกไปแล้ว จุดมุ่งหมายต่อไปของเราก็คือหาดทุ่งวัวแล่น จ.ชุมพร !