วันที่ 7 ของการเดินทางจะเป็นเส้นทางในขากลับ แล้วนะครับ โดยเราจะแวะ “น้ำตกหูโค่ว” น้ำตกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศจีน สามารถเข้าเยี่ยมชมได้จากสองฝั่ง คือฝั่ง มณฑลส่านซี และ มณฑลซานซี เป็นทางผ่านของแม่น้ำหวงเหอ ปัจจุบันมีตาข่ายมากั้นเต็มไปหมด ไม่ค่อยคุ้มแค่แก่การเยี่ยมชมสักเท่าไหร่ครับ

น้ำตกหูโค่ว
เป็นแม่น้ำที่ไหลแรงมากๆ
น้ำตกหูโค่ว
บริเวณรอบๆ น้ำตกแห่งนี้จุดให้เดินมีน้อยมากครับ
น้ำตกหูโค่ว
สายรุ้งก็มา

น้ำตกแห่งนี้ถ้าตั้งใจมาเพื่อดูน้ำ หรือ เล่นน้ำ ไป “ทีลอซู” เหอะครับ ใช้เวลา 30-40 นาทีก็ดูจบละ แต่นี่มันเป็นทางผ่านครับ

น้ำตกหูโค่ว น้ำตกหูโค่ว

และต่อไปเราก็เดินทางมุ่งหน้าไปยังที่พักในคืนนี้กันครับ

平遥古镇 เมืองโบราณผิงเหยา น่าจะมีอายุยืนพอๆ กับประวัติศาสตร์ชาติจีน มีบันทึกไว้มากว่า 2500 ปี แต่ก่อนหน้านั้นมีอีก ตัวเมืองมีพื้นที่ประมาณ 4 ตารางกิโลเมตร กำแพงเมือง ผ่านการก่อสร้างเพิ่มเติมมา 2000 กว่าปีทำให้มีขนาดหนามาก ตั้งแต่กำแพงดิน จนเป็นกำแพงไว้รับปืนใหญ่ดั่งในปัจจุบัน (จริงๆมีเนื้อหาเยอะกว่านี้แต่ผู้เขียนลืมไปละครับ)

เมืองโบราณผิงเหยา
ห้องนอนในเมืองโบราณ

ซึ่งในตอนกลางคืนก็เดินเล่นไปพลางๆ แต่ไม่ได้ถ่ายอะไรมากมายครับ

ในเช้าวันที่ 8 เราก็เดินทางยาวกันต่อไปซึ่งจุดหมายในวันนี้ก็คือจุดเริ่มต้นก็การเดินทาง ซึ่งก็คือ “ไท่หยวน” นั่นเองครับ ฉะนั้นเราเลยต้องทำเวลาในการเดินทางในวันนี้กันซักนิดหน่อยละครับ

เมืองโบราณผิงเหยา
ถนนในยามเช้า
เมืองโบราณผิงเหยา
คนเริ่มพลุกพล่านเพราะเช้าของผมก็คือสายของคนอื่น
เมืองโบราณผิงเหยา
ไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยวคนก็จะน้อยๆ ลงไป

ฉะนั้นไวที่สุดและโอเคที่สุดก็เดินเล่นมันบนกำแพงเมืองโบราณไปเลย

เมืองโบราณผิงเหยา เมืองโบราณผิงเหยา
เมืองโบราณผิงเหยา
วิวที่จะมองเห็นจากด้านบนกำแพงเท่านั้น
เมืองโบราณผิงเหยา
นายแบบ

จุดท่องเที่ยวในเมืองโบราณทั้งหมดต้องใช้บัตรในการเข้าชมนะครับ ถ้าผู้สูงอายุได้บัตรฟรีมาก็ต้องลงทะเบียนก่อนเข้าอีกนะครับ

เมืองโบราณผิงเหยา เมืองโบราณผิงเหยา

โบสต์ และ ศาลเจ้าในเมืองโบราณมีหมดจ้า

เมืองโบราณผิงเหยา
นั่นไม่ใช่หมอก แต่เป็น PM 2.5

ลำดับต่อไปในช่วงบ่ายก็คือ 乔家大院 บ้านสกุลเฉียว เป็นบ้านพ่อค้าดังในยุคราชวงศ์ชิง มีครบแม้กระทั่งฝ่ายบัญชี บ้านทำการสร้างเป็นตัวอักษร 喜喜 มีทางเข้าออกสองทางหลัก มีโรงละคร ครัวใหญ่ บ้านเล็กตามลำดับครบเลย ได้รับการขนานนามว่า พิพิธภัณฑ์ แห่ง ความเป็นอยู่ของชาวบ้าน (รายละเอียดปลีกย่อยผมลืมหมดละ ค่อยไปซ่อมละกันครับ)

บ้านสกุลเฉียว
ทางเข้าช่างดูโหดร้าย
บ้านสกุลเฉียว บ้านสกุลเฉียว

บ้านเศรษฐีสมัยก่อนใหญ่จนมีโรงมหรสพ และ ธนาคาร ภายในบ้านกันเลย

บ้านสกุลเฉียว บ้านสกุลเฉียว

คนสมัยก่อนก็ชอบหาสิ่งมาทำแก้เบื่อกันเนอะครับ

บ้านสกุลเฉียว
นาฬิกาประจำบ้าน
บ้านสกุลเฉียว
หุ่นแสดงฤดูใบไม้ผลิ
บ้านสกุลเฉียว
หุ่นแสดงฤดูร้อน
บ้านสกุลเฉียว
ฤดูใบไม้ร่วง
บ้านสกุลเฉียว
ฤดูหนาว
บ้านสกุลเฉียว
งานเทศกาลต่างๆ
บ้านสกุลเฉียว
ทางเดินภายในตัวโถงบ้าน

ต่อไปก็คือสถานที่สุดท้ายของทริปนี้กันแล้วนะครับ 晋祠唐 ศาลราชวงศ์จิ้น หรือก็คือ ศาลเจ้าคนแซ่หวัง นั่นเอง ได้รับการจองขึ้นเป็น มรดกโลกเรียบร้อย เป็น ศาลราชวงศ์จิ้น คนแซ่จี เป็นราชวงศ์ก่อนยุค 7 รัฐ เป็นราชวงศ์ที่มีอายุยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์จีน ประมาณ 800 ปีได้ ภายหลังเมืองราชวงศ์ล่ม จึงเปลี่ยนแซ่เป็น “แซ่หวัง” ซึ่งเป็นแซ่ที่มีจำนวนเยอะที่สุดในโลกอีกด้วย ภายหลังชื่อศาล ยังได้ถูกนำมาตั้งเป็นชื่อราชวงศ์ถัง โดย “หลี่ซื่อหมิน” หรือ ถังไท่จง นั่นเอง (หลี่ซื่อหมินเกิดและโตที่ซานซี) จึงมีความผูกผันมากมาย

ศาลตระกูลหวัง
ประตูทางเข้า

หลักก็คือคุณค่าทางจิตใจครับ เป็นสถานที่คนแซ่หวัง สมควรจะมากราบไว้บรรพบุรุษที่นี่กันครับ

ศาลตระกูลหวัง
ใหญ่คับจอ
ศาลตระกูลหวัง
องค์ยามเฝ้าศาลหลัก
ศาลตระกูลหวัง ศาลตระกูลหวัง

ต้นไม้อายุ 3000 ปี

ศาลตระกูลหวัง
ที่พักคืนสุดท้าย

คืนสุดท้ายต่อด้วยบุฟเฟต์แถวๆที่พัก เสร็จแล้วนอนเตรียมกลับบ้าน