เริ่มแรกที่เราคิดจะไปคือกาญจนบุรี แต่เราก็ไม่รู้ว่าเราจะไป ณ สถานที่ใดดี เวลานั้น ได้อ่านเจอบทความเกี่ยวกับที่พักแห่งหนึ่งที่ไม่มีอะไรมากมาย ชื่อที่พักนั้นก็คือ บ้านกกกอด

บ้านกกกอด-กาญจนบุรี
ป้ายหน้าที่พัก แลดูสบายตา

ในวันแรก เราเดินทางออกจาก กทม.ผ่านทางถนน 345 ต่อด้วยถนนพุทธมณฑล  และมุ่งหน้าสู่กาญจนบุรีผ่านทาง อำเภอนครชัยศรี จังหวัด นครปฐม ระหว่างทางไปบ้านกกกอด พวกเราจะพบกับสถานที่คุ้นเคยสำหรับเหล่าหนุ่มๆ นั่นก็คือ เขาชนไก่ แสดงว่าเราใกล้จะมาถึงกันแล้วนะครับ  พอเราถึงสามแยกโป่งปัด ก็เลี้ยวซ้าย (ทางหลวงหมายเลข 3457) ถ้าตรงไปเราจะเจอเขื่อนท่าทุ่งนา แสดงว่าเราเลยไปแล้วนะครับ พอเราข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแควใหญ่ ตรงตีนสะพาน เลี้ยวขวาทันที วิ่งไปตามทางสักพักจะเจอ บ้านกกกอด อยุ่ด้านขวามือซึ่งติดกับบริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินท์ครับ

แผนที่เส้นทางเดินทางจาก บ้านดอนเมือง-บ้านกกกอด-น้ำตกเอราวัณ-เขื่อนศรีนครินทร์-บ้านดอนเมือง
แผนที่เส้นทางเดินทางจาก บ้านดอนเมือง-บ้านกกกอด-น้ำตกเอราวัณ-เขื่อนศรีนครินทร์-บ้านดอนเมือง

หลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองหลวง  ไปเติมเต็มพลังกายและใจกับอ้อมกอดแห่งขุนเขา

บ้านกกกอด-กาญจนบุรี บ้านกกกอดนั้นตั้งอยู่ไม่ไกลจากเราชาวเมืองหลวงสักเท่าไรนัก เพียงแค่ 200 กิโลเมตร โดยประมาณ จากเมืองหลวง ถึง บริเวณ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญนบุรี

แรกถึงบ้านกกกอด  สิ่งที่ผมคิดถึงก็คือ คำสโลแกนของบ้านกกกอด

สำหรับคนรักบรรยากาศธรรมชาติ ชอบความสงบ

ไม่ติดความหรูหรา ถ้าคุณชอบอยู่กับสายลม แสงแดด

สายน้ำ ภูเขา พระจันทร์ แสงดาว มากกว่าแสงสีอันศิวิไลซ์

แวบแรกที่เราถึงบ้านกกกอด สิ่งที่ผมสัมผัสถึงก็คือ แสงแดดครับ แสงแดดที่ ร้อนโครตๆ  (กาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่ตอนกลางวันร้อนเป็นอันดับต้นๆของประเทศไทย) ฉะนั้นแนะนำ เพื่อนนะครับว่าควรมาถึง หลังบ่ายสามโมงเป็นต้นไปจะดีมากๆ และเราก็เข้าไปเช็คอิน ได้ห้องที่เราจองกันล่วงหน้า 1 เดือน เป็นห้องไม่มีแอร์ มีแต่พัดลม ติดขอบที่พักมากๆเลยครับ

บ้านกกกอด-ห้องพัก
ห้องพักดูสบายตา กลางวันร้อน กลางคืนหนาวครับ
บ้านกกกอด-ห้องพัก
ทางเดินทำจากไม้ เวลาเดินจะมีเสียง เอี้ยดอ้าด ใครเดินผ่านจะรู้หมดครับ

และแล้วก็มาถึงเรื่องห้องน้ำ ที่หลายๆคนกลัวกันเพราะว่า ห้องประเภทนี้ไม่แถมห้องน้ำมาด้วย เราต้องใช้ห้องน้ำรวมกัน แต่ขอให้มั่นใจได้เลยครับ สะอาดกว่าของประเทศจีนเยอะ ถึงขนาดเรานอนหลับได้เลยจริงๆนะ (ไม่ใช่นอนตายคาส้วมนะครับ)

บ้านกกกอด-ห้องน้ำ
สภาพจากภายนอก ดูปกติออกแนวบ้านไร่เรือนทุ่งเบาๆ ครับ
บ้านกกกอด-ห้องส้วม
มีป้ายบอก กำกับต่างๆไว้ครบ และขอความร่วมมือในการถอดรองเท้า ปกติจะมีพนักงานทำความสะอาดคอยดูแล

และทุกๆ คนคงจะต้องนึกถึงว่า มาบ้านกกกอด จะมีกิจกรรมอะไรให้ทำมั่ง บ่องตรงๆ แทบจะไม่มีครับ นั่นละครับ ในความไม่มีกิจกรรมอะไรให้ทำเลย ทำให้หลายๆ คนที่มาถึงที่นี่ได้มีเวลา ดื่มด่ำกับธรรมชาติมากกว่าปกติ ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับธรรมชาติ

บ้านกกกอด
กิจกรรมยามว่าง เราอยากเห็นคนไทยบินได้

แต่เอาเข้าจริงๆ กิจกรรมก็เยอะพอสมควรนะครับ หลักๆ ที่นักท่องเที่ยวทุกคนทำเมื่อมาถึงที่นี่ก็คือ

  • 1.เซลฟี่ ถ่ายกันจน ป้ายสึก ต้นไม้สึก ถ่ายกันให้ตายไปข้างครับ
  • 2.พายเรือคายัค ที่ท่าเรือริมน้ำ จะมีเรือคายัคผูกอยู่สองสามลำสามารถเอาเสื้อชูชีพและไม้พายที่โถงกลางไปใช้ได้
  • 3.นั่งอ่านหนังสือ สามารถทำได้ทุกที่ครับ แต่ไม่แนะนำในห้องพักเด็ดขาด กลัวจะร้อนตายคาห้อง
  • 4.ว่ายน้ำ เตรียมชูชีพและห่วงยางกันให้พร้อม วิ่งไปท่าเรือริมน้ำ กระโดดลงไปได้เลยครับ น้ำสะอาดเวอร์
  • 5.สุราอันนี้งดครับ แต่นั่งล้อมวงคุยกันหรือเล่นไพ่กันยามค่ำคืน ที่ท่าเรือริมน้ำได้ครับ เย็นสบายมากๆ

ปล.ที่พักไม่มีร้านอาหารจำหน่ายอาหารในเวลาเย็นนะครับ แต่ร้านบริเวณที่พัก อร่อย และ ราคาถูก

บ้านกกกอด
ท่าเรือในตำนาน ที่สามารถมาทำกิจกรรมต่างๆ ได้ที่นี่ ยกเว้นกินเหล้านะครับ ที่นี่เขาห้าม
บ้านกกกอด
ยามค่ำคืนที่เงียบสงัด แต่ริมน้ำมีไฟเพื่อให้พวกเรานั่งคุยและเล่นกันได้ แบบสบายใจ แต่อย่าเสียงดังมากนะครับ เดี๋ยวปลาจะนอนไม่หลับ

และแล้วเราก็ต้องร่ำลาค่ำคืนที่เงียบสงบนี้ ไปสู่โลกแห่งความฝัน

วันที่สอง ตามโปรแกรมของเรา วันนี้ต้องกลับกรุงเทพ เพื่อเตรียมตัวทำงานในวันจันทร์ แต่ตำแหน่งที่ตั้งของบ้านกกกอด นั้นเอื้ออำนวยแก่การท่องเที่ยวที่ใกล้ๆ มากๆ ติดกับบ้านกกกอดเลย ก็จะมีเขื่อนท่าทุ่งนา หรือ น้ำตกเอราวัณ และ เขื่อนศรีนครินทร์ แต่เขื่อนท่าทุ่งนา เราเห็นมาทั้งวันและ

เขื่อนท่าทุ่งนา บ้านกกกอด

และเป้าหมายต่อไปของเราก็คือ อุทยานแห่งชาติน้ำตกเอราวัณ

น้ำตกเอราวัณ เป็นน้ำตกที่ใหญ่และสวยงาม บนฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ ตั้งอยู่ที่ อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นน้ำตกที่มีระยะทางยาวประมาณ 1,500 เมตร ติดต่อกัน ซึ่งแบ่งออกเป็นชั้นๆ ได้ 7 ชั้นเป็นน้ำตกขนาดใหญ่

<—– คลิก : ข้อมูลเพิ่มเติมน้ำตกเอราวัณ —–>

น้ำตกเอราวัณ ราคาค่าเข้าอุทยานสำหรับคนไทยในปี 2015 ได้มีการปรับราคาขึ้นแล้ว ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท แต่เมื่อเข้าไปแล้วก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยครับ เพราะว่า เอราวัณในฤดูกาลนี้ ก็เหมือนคนแก่ไร้ซึ่งเสน่ห์และเรี่ยวแรง ไม่ตรึงตาใจเหมือนสมัยผมเด็กๆ และเคยมาเยือนถึงสองรอบด้วยกัน และด้วยค่าเข้าอุทยานที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่ง หมุนรถกลับออกมาจากจุดจำหน่ายตั๋ว แต่ก็ถือว่าเป็นข้อดีอย่างนึงละครับ ทำให้นักท่องเที่ยวคุณภาพไม่ค่อยดีได้ลดจำนวนลง แต่มีเงินหมุนเวียนเพื่อทำประโยชน์ให้อุทยานเพิ่มขึ้น

น้ำตกเอราวัณ
อุทยานแห่งชาติน้ำตกเอราวัณในวันที่น้ำน้อย
น้ำตกเอราวัณ
น้ำที่น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด

เป้าหมายสุดท้ายของทริปนี้ก็คือ เขื่อนศรีนครินทร์ เมื่อเข้ามาถึงตัวเขื่อนเวลาก็เริ่มเคลื่อนตัวจะถึงช่วงเย็นแล้ว เราจึงได้แต่ขึ้นไปเก็บภาพบรรยากาศเฉพาะสันเขื่อนเท่านั้น

เขื่อนศรีนครินทร์
มุมวิวสันเขื่อนศรีนครินทร์

เขื่อนศรีนครินทร์ (ชื่อเดิม เขื่อนเจ้าเณร) เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกของโครงการพัฒนาลุ่มน้ำแม่กลอง สร้างขึ้น บนแม่น้ำแควใหญ่ บริเวณบ้านเจ้าเณร ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี นับเป็น เขื่อนแห่งที่ 8 ในจำนวน 17 แห่ง ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สร้างขึ้นเพื่อ อำนวยประโยชน์ทางด้านต่างๆ ตลอดจนช่วยพัฒนาชีวิต ความเป็นอยู่ของราษฎร และส่งเสริมให้เป็น แหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม

เขื่อนศรีนครินทร์
ก่อนกลับบ้านขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหน่อยครับ

และพระอาทิตย์เริ่มตกดิน เราก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ เพื่อเตรียมตัวต่อสู้กับชีวิตต่อไป เจอกันใหม่ปีหน้า กาญจนบุรีที่รัก

<<< คลิก : ดูรูปภาพเพิ่มเติม >>>